ข่าวประชาสัมพันธ์ » SUN เดินหน้าอัพกำลังผลิตตามแผนกลยุทธ์ ทุ่ม 150 ลบ. สร้างอาคารผลิตใหม่เสริมแกร่งยอดขายในประเทศ

SUN เดินหน้าอัพกำลังผลิตตามแผนกลยุทธ์ ทุ่ม 150 ลบ. สร้างอาคารผลิตใหม่เสริมแกร่งยอดขายในประเทศ

22 มีนาคม 2024
87   0

Spread the love

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ “SUN” เดินหน้าโครงการลงทุนก่อสร้างอาคารผลิต อาคารสำนักงาน และติดตั้งเครื่องจักรเพื่อสินค้าพร้อมรับประทาน (RTE) โดยร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือ (LOI) ในการก่อสร้าง กับ บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด หรือ “KPI” (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ดันรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 10%

SUN ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตร ภายใต้ตราสินค้า KC ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือ (LOI) ก่อสร้างอาคารและสถานที่สำหรับรองรับการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน กับ KPI ผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการก่อสร้างโรงงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตอาหารมาอย่างยาวนานมากว่า 30 ปี โดยอาคารผลิตตั้งอยู่บนพื้นที่บริษัท SUN จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิต ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2567 นี้

นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า SUN ให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล และมุ่งในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันสินค้าพร้อมรับประทาน RTE ซึ่งวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ เป็นสินค้าสำคัญที่สร้างรายได้จากในประเทศให้เติบโต โดยในปี 2567 บริษัทมีเป้าหมายในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ในกลุ่มของสินค้าพร้อมรับประทานเพื่อสุขภาพ ให้มีความหลากหลาย และยกระดับการผลิตสินค้าเดิมให้มีคุณภาพและปริมาณการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารและสถานที่สำหรับรองรับการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน งบประมาณการลงทุนกว่า 150 ล้านบาท สอดรับกับความต้องการสินค้าพร้อมรับประทานจากลูกค้าในประเทศที่มีปริมาณสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตั้งเป้ารายได้สินค้าพร้อมรับประทานเติบโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 % นอกจากนี้ยังรองรับการผลิตสินค้า RTE ในกลุ่มของมันหวานและถั่วลายเสือ ซึ่งจะมีการพัฒนา Shelf life ให้มีอายุ 1 ปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน ในปี 2568