ติดใจเมืองเชียงใหม่ ไม่กลับหนุ่มยูเครน ถูกตม.เชียงใหม่ จับกุม Overstay 131 วัน

ติดใจเมืองเชียงใหม่ ไม่กลับหนุ่มยูเครน ถูกตม.เชียงใหม่ จับกุม Overstay 131 วันกว่า 4 เดือน

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายเร่งด่วนสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรม ได้แก่ การลักลอบลำเลียง จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมาย การพนันออนไลน์ การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายของกลุ่มทุนต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ การลักลอบนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมายหรือเลี่ยงภาษีในพื้นที่ชายแดน พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต หรือโอเวอร์สเตย์ (Overstay) ระหว่างวันที่ 23 ก.ค. – 1 ส.ค.67 (รวม 10 วัน) เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา และรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ดำเนินการเร่งรัดสืบสวนจับกุม คนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay)

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 31 ก.ค.67 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติยูเครน จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (131 วัน)” โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยได้รับยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว 30 วัน (ผ.30) แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จ.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

Continue reading “ติดใจเมืองเชียงใหม่ ไม่กลับหนุ่มยูเครน ถูกตม.เชียงใหม่ จับกุม Overstay 131 วัน”

อาจารย์และนศ.โปลิ ขอเป็นส่วนหนึ่งได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าช่วยตรวจเช็คเครื่องเป่าลม

อาจารย์และนศ.โปลิ ขอเป็นส่วนหนึ่งได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าช่วยตรวจเช็คเครื่องเป่าลม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญของเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เนื่องจากมีการใช้งานมาต่อเนื่องต้องมีการดูแลซ่อมบำรุงให้มีประสิทธิภาพที่ดสำหรับนำมาใช้ในการดับไฟป่าในปีหน้า


อาจารย์ยุทธภูมิ งามลิ สาขางานยานยนต์ พร้อมนักศึกษาสาขาช่างยนต์ ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ ถนนสุขเกษม ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ช่วยกันตรวจเช็คเครื่องเป่าลม กว่า 20 เครื่อง จากเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ของจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากได้ใช้ ซึ่งเป้นความดีใจของอาตารย์และนักศึกษา ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือซ่อมแซมดูแลอุปกรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ถึงจะไม่ได้มีส่่วนร่วมไปเข้าดำเนินการดับไฟป่า แต่ได้ใช้ความรู้ในด้านช่างช่วยดูแลซ่อมแซมอุปกรณ์ ซึ่งเป็นการได้ลงมือซ่อมแซมดูแลเครื่องเป่าลม ของจริงหลังจากได้เรียนแต่ในห้องเรียน จากประสบการณ์จริง ยินดีอย่างมากในการได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในครั้งนี้


เนื่องด้วยในเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนพฤษภาคม ของทุกปี จังหวัดเชียงใหม่ จะประสบกับกับฝุ่นอองขนาดเล็ก จากหมอกควันและไฟป่า ทำให้มาตรฐานคุณภาพอากาศต่ำ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยสาเหตุเกิดจากไฟป่า โดยการแก้ไขปัญหาไฟป่าต้องอาศัยประสบการณ์และเครื่องมือ มีความพร้อมในการออกปฎิบัติงาน ซึ่งเครื่องเป้าลม อากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสาร เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟ อุปกรณ์ที่ใชงานมาตลอดห้วงเกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่องจะทำให้อุปกรณ์เกิดการเสื่อมสภาพชำรุดเสียหาย และทำให้การทำงานไม่สามารถดำเนินกประสิทธิภาพ ภายหลังจากเสร็จสิ้นจากภารกิจดับไฟป่าในช่วงที่ผ่านมา การซ่อมบำรุงอุปกรณ์โดยเฉพาะเครื่องเป่าลมจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อการทำงานในครั้งต่อไปจะได้มีอุปกรณ์ที่มีศักยภาพและพร้อมเผชิญเหตุได้ดีมีประสิทธิภาพ

อดีตปธ.สภาท่องเที่ยวเชียงใหม่เผยตอนนี้กระทบหนักรายได้กว่าร้อยละ 70 จากการท่องเที่ยวลดหาย

อดีตปธ.สภาท่องเที่ยวเชียงใหม่เผยตอนนี้กระทบหนักรายได้กว่าร้อยละ 70 จากการท่องเที่ยวลดหาย ซึ่งรัฐบาลมาถูกทางเปิดฟรีวีซ่า 93 ประเทศ แต่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้รับอนิสงส์ เพราะพฤติกรรมการบริโภคมีเป้าหมายการท่องเที่ยวเฉพาะพื้นที่อย่างท่องเที่ยวทะเล ท่องเที่ยวในกรุงเทพ เป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูง ถึงนักท่องเที่ยวจะเข้ามามากแต่ภาคบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นไม่ได้รับอนิสงส์ เพราะจะได้ระดับ 4 -5 ดาว


นายพรชัย จิตรนวเสถียร นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงมาตรการฟรีวีซ่า 93 ประเทศของรัฐบาลใขณะนี้มาถูกทาง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห้นได้ชัด แต่คเป็นปัญหาเพราะไม่ได้กระจายกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาออกไปตามหัวเมืองแหล่งท่องเที่ยวของไทยมากหนัก เนื่องจากมีพฤติกรรมการบริโภคที่เจาะจงมีเป้าหมายอยางจะมาเที่ยวกรุงเทพ ไปท่องเที่ยวเมืองชายทะเล จะใช้บริการระดับ 4-5 ดาว เพราะมีกำลังซื้อสูง ภาคบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นถึงไม่ได้รับอนิสงส์จากกลุ่มที่เข้ามา


ประกอบกับประเทศไทศมี 2 เมืองที่ติดอันดับเมืองท่องเที่ยวสุดโปรดในเอเชีย ซึ่ง เชียงใหม่ ได้อันดับ 1 และกรุงเทพอันดับ 5 ย่อมส่งผลดีให้นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางเข้ามา จังหวัดเชียงใหม่ กำลังได้รับผลกระทบโดยตรงเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวเพราะมีชาวไทยเข้ามาถึงร้อยละ 60 มีสัดส่วนของต่างชาติเพียงร้อยละกว่า 30 เท่านั้น ซึ่งนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมไม่ได้ช่วยให้จังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น เพราะการนำเสนอในส่วนต่างๆ ร่วมไปถึงกองถ่ายจะมุ่งไปเมืองชายทะเลเป็นหลักส่งผลให้นักท่องเที่ยวเกลุ่มนี้จะมุ่งเป้าไปเมืองชายทะเล และเมืองหลวง ทำให้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณีและทรัพยากรธรรมชาติ ของป่าเขาซึ่งเป็นจุดขายของจังหวัดเชียงใหม่ จึงไม่ได้รับผลดีมากเท่าที่ควรจากนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เปิดเข้ามาในขณะนี้


แต่ผลกระทบอย่างหนักในขณะนี้กลุุมนักท่องเที่ยวชาวไทย กว่าร้อยละ 60 เพราะมีปัญหาทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ภาระหนี้สินในครัวเรือนมากขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องตัดลดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว กลุ่มนี้จะท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักจังหวัดเชียงใหม่มีต้นทุนการท่องเที่ยวไม่สูงมากหนัก ทำให้กลุ่มนี้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นประจำตลอดทั้งปี จะไม่ว่าจะช่วงไฮ หรือ โลซีซั่นจะเดินทางท่องเที่ยวแต่หลังจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทั้งค่าพลังาน ค่าไฟฟ้า ดอกเบี้ยสูง ภาษีโรงเรือนที่สูง การเลิกจ้างงาน อันเนื่องจากมาจากนโยบายต่างๆ ที่พลักดันให้เกิดต้นของผู้ประกอบการสูงขึ้น ขึ้นค่าแรงทำให้ธุริกจ ผู้ประกอบการต่างๆ ยอมรับกิจการ หยุด ชะลอการเปิดให้บริการซึ่งกลุ่มเหล่านี้ที่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในห้วงวันหยุดยาว หยุดตามเทศกาล ส่งผลให้ลดกำลัง ลดค่าใช้จ่ายทริป การท่องเที่ยวลง ส่งผลให้เกิดวิกฤตภาคบริการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ กว่าร้อยละ 70 ซึ่งเป็นรายได้เข้าสูงจังหวัดเชียงใหม่ ฝากถึงรัฐบาล พิจารณาในการเข้ามาประคอง และขับเคลื่อนพลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของผู้ประกอบการด้านภาคบริการท่องเที่ยว สามารถได้เดินหน้าต่อไป

 

ข้าวแกง 10 บาทสวนทางเศรษฐกิจข้าวของแพงเปิดสาขาเพิ่มเอาใจลูกค้าคนมีรายได้น้อย

 

วันนี้ผู้สื่อข่าว พาไปอีกหนึ่งร้านอาหาร ที่ผลกระทบเศรษฐกิจี่มี ข้าวของแพง วัตถุดิบจะปรับราคาขึ้น ต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ร้านข้าวแกง 10 บาท เชียงใหม่ ยังคงราคาเดิมเอาใจคนมีรายได้น้อย ได้อิ่มได้อร่อย ในราคาเดิมไม่ปรับขึ้น หลังจากเปิดข้าวแกง 10 บาท เชียงใหม่ สาขาหลังสามกษัตริย์ จนได้ผลตอบรับลูกค้าหลายพื้นที่ ต้องการรับประทานแต่เนื่องจากสาขาแรกอยู่ในเมือง ทำให้ต้องขยายสาขาออกไปอีก 3 สาขา ข้าวแกง 10 บาท เชียงใหม่ สาขา ปั้มพีทีสันผักหวาน อำเภอหางดง ,ข้าวแกง 10 บาท เชียงใหม่ สาขาสันป่าตอง อำเภอสันป่าตอง และข้าวแกง 10 บาท เชียงใหม่ สาขาระแกง ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ทุกสาขาเปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 น. – 15.00 น. คงราคาเดิมถึงวตถุดิบจะปรบราคาขึ้น แกงถ้วยละ 10 บาท ,ข้าวจานละ 10 บาท (เติมไม่อั้น) หากใส่ถุงกลับบ้าน ถุงละ 20 บาท มีของหวาน 10 บาท และฟรีน้ำพริกกะปิ , ผักสด ฟรี ถึงตอนนี้กำไรจะได้น้อยแต่ก็พออยู่ได้ ลูกค้าอาจจะไม่คึกคักเหมือนในชวงแรกๆ แต่ก็หมุนเวียนเข้ามาตลอดทั้งวัน ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้หลายคนลดการใช้จ่ายลง มีเพียง 20 บาทก็อิ่มได้


มีเกือบ 20 เมนู ให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานแต่ละวัน แต่เมนูที่คงมีทุกวัน ทุกสาขา เพราะลูกค้าชื่นชอบมาก เพราะแล้วต้องสั่งไปรับประทาน แกงจืดมะระ , ไข่พะโล้ , คั่วกลิ้ง , ปลาดุกกรอบผัดพริกแกง , หมูยอทอด และ กุนเชียงทอด แต่ละสาขาสามาระเข้าดูได้ที่ facebook ข้าวแกง 10 บาท เชียงใหม่ จะมีเบอร์โทร และพิกัดให้กับลูกค้า

เชียงใหม่ เมืองปราบเซียน เมืองท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบตรงเศรษฐกิจขณะนี้

เชียงใหม่ ผลกระทบตรงเศรษฐกิจขณะนี้ปากท้องของประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ อุปนายกสมาคมแต้จิ๋วเชียงใหม่เผย เมืองปราบเซียนอย่างเชียงใหม่ คือความท้าทายของผู้ประกอบการนักธุรกิจหน้าใหม่ ส่วนจะสามารถอยู่ไดยืนยาวนานขนาดไหนนั้น ก็ต้อขึ้นอยู่กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมผลกระทบที่ได้รับตามมา

นายพีรพงศ์ เลิศสถิรกุล ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมและอุปนายกสมาคมแต้จิ๋วเชียงใหม่ กล่าวถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจในขณะนี้ มีมากโดยเฉพาะปากท้องของประชาชน รวมไปถึงภาคธุรกิจในด้านต่างๆ ส่วนมุมมองคนเชียงใหม่และมองในแง่ของจังหวัดเชียงใหม่ รายได้มาจากภาคการท่องเที่ยว จากธรรมชาติ วัฒนธรรมต่างๆ เสริมด้วยอาหาร ที่หลายเมนูกำลังเป้นที่นิยมโดยเฉพาะข้าวซอย ซุปที่ดีที่สุดจากนักรีวิวทั่วโลก ผลโหวตให้ “ข้าวซอย” เมนูขึ้นชื่อทางภาคเหนือของไทย คว้าอันดับ 1 มาครอง จะส่งเสริมรายได้นอกจากเข้ามาท่องเที่ยว ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ทำให้ต้องมาช่วยกันกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งห่วงโซ่คือภาคการเกษตรปัจจุบันพื้นที่คงเท่าเดิม แต่พื้นที่เพาะปลูกเริ่มลดลง เพราะมีการเข้ามากว้านซื้อเก็งกำไรเป็นที่อยู่อาศัยที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ก็ตาม สินค้าหลักต้นทุนต่ำที่สุดคือการท่องเที่ยวเพราะมีหลายจังหวัดที่มีการแข่งขัน ไม่ใช้มีเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่เพียงแห่งเดียวในภาคเหนือ ภาครัฐตลอดจนส่วนท้องถิ่น จังหวัดเชียงใหม่ ทุกภาคส่วนร่วมมือกันกระตุ้นให้มากที่สุด ภาคลักษณ์ของความเป็นเมืองเชียงใหม่ที่จะต้องช่วยกันรักษาไว้ให้ดี

ส่วนผู้ประกอบการ นักธุรกิจที่เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่มักบอกว่าเป็นเมืองปราบเซียน เป็นคนต่างถิ่นจากต่างจังหวัดเข้ามา ประกอบธุรกิจ ทำมาหากินในจังหวัดเชียงใหม่ นั้นส่วนตนมองว่าเป็นการกล่าวของผู้ประกอบการและนักะธุรกิจ เมื่อถึงเวลาเวทีบางลงก็ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนหน้าใหม่เข้ามา ที่ต้องการความท้าทาย มองทิศทางไปข้างหน้าที่จะส่งผลดีขึ้น เพื่อลบคำพูดว่าเมืองปราบเซียน ส่วนจะสามารถอยู่ไดยืนยาวนานขนาดไหนนั้น ก็ต้อขึ้นอยู่กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมผลกระทบที่ได้รับตามมา ที่สำคัญคือการปรับตัวในส่วนของตนเป็นคนเชียงใหม่ ตั้งแต่เล็กจนดตก้ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมความพัฒนาของเมืองเศรษฐกิจ

เจ้าของภัตตาคารอาหารจีนแต้จิ๋วชื่อดังเชียงใหม่ยอมรับสภาพเศรษฐกิจกระทบผู้ใช้บริการลดลง

เจ้าของภัตตาคารอาหารจีนแต้จิ๋วชื่อดังเชียงใหม่ยอมรับสภาพเศรษฐกิจกระทบผู้ใช้บริการลดลง ฝากภาครัฐส่วที่เกี่ยวข้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อลมหายใจผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย เดินเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มขึ้น เพราะในช่วงนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาจะได้ราคาค่าที่พัก แหล่งท่องเที่ยวลดลง รวมไปถึงร้านอาหารที่ยังคงราคาไม่ปรับขึ้นไปตามกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสภาพอากาศดี เย็นสบายแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติสวยงาม เพราะจังหวัดเชียงใหม่เที่ยวได้ทุกวัน

นายเกรียงศักดิ์ เจียรสาธิต ผู้บริหารภัตตาคารอาหารเจี่ยท้งเฮง อาหารจีนแต้จิ๋ว กล่าวว่าจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยอมรับว่าได้รับผลกระทบเช่นกันผู้ใช้บริการภัตตาคารอาหารเจี่ยท้งเฮง หากเปรียบเทียบในห้วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงเกือบร้อยละ 20 ชาวเชียงใหม่ลดน้อยลง ไม่ออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน ประหยัดการใช้จ่ายมากขึ้น หากผู้ที่มาใช้บริการชวงนี้กว่าร้อยละ 50 ลดการสั่งอาหารรถจำนวนเงินลงจากเดิมกว่ารอยละ 20 ส่วนนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเป็นสภาวะปกติของช่วงฤดูฝนที่จะลดลงไป เดินทางมาท่องเที่ยวน้อยลงเป็นไปตามฤดูกาล ซึ่งจะลดลงไปกว่าช่วงไฮซีซั่นกว่าครึ่ง จำนวนผู้ใช้บริการยังลดน้อยลงกว่าในปีที่ผ่านมาต้องส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารไม่น้อย

อย่างไรก็ตามในช่วงนี้หลังจากรัฐบาลเปิดฟรีวีซ่า ยังได้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาโดยเแพาะจากจีนและไต้หวัน เข้ามาใช้บริการต่อเนื่องทุกวัน แต่เป็นกลุ่มขนาดเล็กๆ ไม่ได้มาแบบกรุ๊ปใหญ่ เป็นกลุ่มที่มีแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่แล้ว ฝากถึงภาครัฐและจังหวัดเชียงใหม่ เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการใช้จ่ายให้การใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น ออกมาใช้บริการรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร สามารถยืนต่อไปได้ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดจัดกิจกรรมให้เดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ เพราะในช่วงนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาจะได้ราคาค่าที่พัก แหล่งท่องเที่ยวลดลง รวมไปถึงร้านอาหารที่ยังคงราคาไม่ปรับขึ้นไปตามกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้มีการใช้บริการมีการใช้จ่ายให้ธุรกิจมีการหมุนเวียนของเม็ดเงิน ตอนนี้ภาครัฐ การท่องเที่ยวต้องหามาตรการกระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้จ่ายจากสภาพอากาศดี เย็นสบายแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติสวยงาม เพราะจังหวัดเชียงใหม่เที่ยวได้ทุกวัน

ตม.เชียงใหม่ เข้มระดมกวดล้างคนต่างด้าวอยู่เกินฯ (Overstay)

ตม.เชียงใหม่ เข้มระดมกวดล้างคนต่างด้าวอยู่เกินฯ (Overstay) จับอีกรายสาวเมียนมาอยู่เกินวีซ่า 240วัน

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายเร่งด่วนสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรม ได้แก่ การลักลอบลำเลียง จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมาย การพนันออนไลน์ การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายของกลุ่มทุนต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ การลักลอบนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมายหรือเลี่ยงภาษีในพื้นที่ชายแดน พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต หรือโอเวอร์สเตย์ (Overstay) ระหว่างวันที่ 23 ก.ค. – 1 ส.ค.67 (รวม 10 วัน) เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา และรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ดำเนินการเร่งรัดสืบสวนจับกุม คนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay)

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 25 ก.ค.67 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.เชียงใหม่ – ลำพูน ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติ เมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (240 วัน)”

โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทางตม.จว.เชียงใหม่

ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

 

28 กค.เปิดให้เที่ยวชมฟรีที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เชียงใหม่

28 กค.เปิดให้เที่ยวชมฟรีที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เชียงใหม่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าชมสวน ฟรี โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมบัตรผ่านประตู ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. (ค่ายานพาหนะจ่ายปกติ) เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 และแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวชมสัมผัสคุณค่าความงดงามของพรรณไม้และสายหมอกในช่วงฤดูฝน ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

ตม.เชียงใหม่ รวบหนุ่มใหญ่มะกันแสบ ไม่ต่อวีซ่า ซุกตัวเงียบ 4 ปี สุดท้ายไม่รอด

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.,

พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ดำเนินการสืบสวน จับกุมคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay)   ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ   พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 24 ก.ค.67 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.ท้ายวัง ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติอเมริกัน จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (1,563 วัน)”

โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทางตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

กลุ่มบริการท่องเที่ยวเชียงใหม่ยังไม่รู้เงินดิจิทัลจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่

กลุ่มบริการท่องเที่ยวเชียงใหม่ยังไม่รู้เงินดิจิทัลจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ เพราะยังไม่ชัดเจน ส่วนใหญ่ยังสับสนถึงข้อกำหนดในการใช้จ่ายที่ออกมายังไม่ชัดเจน ทำให้การคาดการณ์เม็ดเงินจากดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะมากระตุ้นอะไรได้บาง แนะรัฐไม่ควรจ่ายครั้งเดียวแบ่ง 2 ส่วน และเปิดกว้างการใช้ให้ถึงทุกภาคส่วน จะได้กระตุ้นได้ดีกว่าหากจ่ายครั้งเดียวแล้วไปซื้อมือถือ


นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เผยว่าจากปัจจัยทางเศรษฐกิจในขณะนี้ ผลกระทบต่อภาคบริการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ คาดหวังในช่วงปลายปีช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ จะมีคนไทยเข้ามาเสริมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกราวร้อย 20-30 จะทำให้เศรษฐกิจที่ซบเซาในห้วงนี้ ได้กลับมาดีขึ้น ซึ่งถามถึงเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ยังหาความชัดเจนไม่ได้ว่าจะใช้ได้ส่วนไหนอย่างไร ส่วนใหญ่ยังสับสนถึงข้อกำหนดในการใช้จ่ายที่ออกมายังไม่ชัดเจน ทำให้การคาดการณ์เม็ดเงินจากดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะมากระตุ้นอะไรได้บาง
หากจะเปรียบกับการแจกเข้าเป่าตุงเป่าตัง สามารถนำไปใช้จ่ายที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมานั่งแปลงเงินดิจิทัลเป็นเงินบาท อย่างเงินเยี่ยวยาที่รัฐแจกมาก็สามารถนำไปใช้จ่ายในด้านต่างๆ แต่เงินดิจิทัลนี้หากใช้ซื้อมือได้ ก็จบในที่เดียวแต่จะพอซื้อหรือไม่ทันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เม็ดเงินจะไม่กระจายออกไปไหนเพราะใช้ครั้งเดียว หากรัฐบาลจะเปลี่ยนมาตรการแจกแบงเป็น 2 ครั้งอาจจะครั้งละ 5 พัน สามารถใช้จ่ายได้ด้านต่างๆ กระจายเม็ดเงินออกไปดีกว่าหากจ่ายครั้งเดียวแล้วจบ เพราะบางคนอาจจะมีการวางแผนการใช้จ่าย อย่างบางคนอาจะคิดไว้ใช้ท่องเที่ยวไปตามร้านอาหาร ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็จะได้รับอนิสงส์เม็ดเงินรกะจายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นมาได้ โดยเฉพาะร้านอาหาริมทาง ร้านอาหารขนาดเล็กและกลาง ท่าที่กำลังจะตายเพราะกำลังซื้อไม่พอ สินค้าก็ปรับแพงขึ้น ตอนนี้ก็จะเห็นร้านปิดให้เห็นมากขึ้น จะทำให้เม้ดเงินกระจายถึงกลุ่มรากหญ้าได้ดีอีกด้วย