เชียงใหม่ ตม.เชียงใหม่ ลุยตรวจร้านคาราโอเกะ ป้องปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

เชียงใหม่ ตม.เชียงใหม่ ลุยตรวจร้านคาราโอเกะ ป้องปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ตม.2 รักษาราชการแทน ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4 รักษาราชการแทน ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ตรวจเข้มพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างเต็มรูปแบบ


ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ศราวุธ วะเท ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และ
พ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานความมั่นคงภายในพื้นที่ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับ สภ.เมืองเชียงใหม่ และ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสถานประกอบการร้านคาราโอเกะ ในเขตอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ ไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด จึงประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.บ.ค้ามนุษย์, พ.ร.บ.การทำงาน และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทราบ
บทลงโทษทางกฎหมายของการจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย คือ “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่สิทธิจะทำได้” ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนงานต่างด้าวที่จ้าง 1 คน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี ส่วนอัตราโทษของคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท ถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทางและไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี


ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เชียงใหม่ สมาชิกวุฒิสภานำคณะถ่ายทำการบูชาพระรัตนตรัยตามวิถีพุทธ และพระคาถาบารมี 30 ทัศ

 เข้ากราบนมัสการพระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหารจังหวัดลำพูนเพื่อจัดทำคลิปภาษาล้านนาเตรียมมอบให้คณะธรรมทูต
ดร.ปรีชา บัววิรัตน์เลิศ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยนางสิริรัตน์ โอภาพ วัฒนธรรมจังหวัดลำพูน พระสมุห์อานนท์ อินฺทวํโส เจ้าอาวาสวัดหนองคำ จังหวัดเชียงใหม่ และพระNarandawamsa หรือ พระหน่อคำ วัดสุวรรณาราม นำคณะถ่ายทำการบูชาพระรัตนตรัยตามวิถีพุทธ และพระคาถาบารมี 30 ทัศ เข้ากราบนมัสการพระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูนเพื่อจัดทำคลิปการบูชาพระรัตนตรัยตามวิถีพุทธ โดยครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากพระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยราชวรมหาวิหารในการเป็นองค์ผู้ถ่ายทอดบทสวดการบูชาคุณพระรัตนตรัย และคาถาบารมี 30 ทัศ ภาษาล้านนา เพื่อเตรียมมอบให้คณะธรรมทูต ในการนำชุดเผยแพร่ ประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย ไปมอบให้กับวัดในประเทศต่างๆ ตามขั้นตอนของการเสนอขอ
พระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน เจริญพรว่า การเป็นองค์ถ่ายทอดบทสวดการบูชาคุณพระรัตนตรัย และคาถาบารมี 30 ทัศ ในครั้งนี้ต้องการเป็นแบบอย่างให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสวดมนต์ตามหลักพระพุทธศาสนาที่สืบทอดกันมากว่า 2,500 ปี และร่วมรำลึกถึงคุณงามความดีของครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ท่าน เป็นผู้มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา ในพื้นที่ภาคเหนือโดยท่านได้บูรณะ ปฏิสังขรณ์วัดส่งเสริมวัฒนธรรมในแผ่นดินล้านนา อันนำมาสู่ความสงบสุขของสังคม
ดร.ปรีชา บัววิรัตน์เลิศ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ทางมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา และคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) กำหนดจัดพิธีพุทธาภิเษก เถราภิเษก องค์หล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย เพื่อเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ข่วงพระเจ้า ล้านนา ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ปากทางเข้าห้วยตึงเฒ่า ภายใต้บารมีพระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร รองเจ้าคณะภาค 7 โดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ มาเป็นประธานในพิธีจุดเทียนชัย พร้อมประกอบพิธีมอบชุดเผยแพร่ประกาศเกียรติคุณให้กับตัวแทนธรรมทูต ในการเผยแพร่ในประเทศต่าง ๆ

เชียงใหม่ ศอ.ปส.ชน. สกัดรถขนวนการลักลอบขนยาเสพติด 3 คัน

เชียงใหม่ ศอ.ปส.ชน. ร่วมกับปปส.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดรถขนวนการลักลอบขนยาเสพติด 3 คันจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน ยึดยาบ้า 600,000 เม็ดในพื้นที่ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง


พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ( ศอ.ปส.ชน. ) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันนี้ (8 พย.66) ส่วนปฏิบัติการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ร่วมกับ ปป.2 สปป.,กอง12สปข.ศรภ.,ศปก.ทบ.,จนท.ตร.สภ.เวียงป่าเป้า ,สภ.วังเหนือ สนธิกำลังร่วมกันสกัดกั้นและตรวจค้นรถเป้าหมาย จำนวน 3 คัน ที่เดินทางมาจากจังหวัดเชียงราย พร้อมประสานหน่วยงานในพื้นที่จัดกำลัง/ตรวจสอบรถในการสกัดกลุ่มขบวนการดังกล่าว โดยสามารถสกัดรถได้ที่ อ วังเหนือ จังหวัดลำปาง โดยขบวนการดังกล่าวประกอบด้วย รถทะเบียน ขธ 3592 ชร.คาดว่าเป็นรถที่ใช้ในการนำขบวน ,รถทะเบียน ขข 8315 ชร.เป็นรถที่ใช้บรรทุกยาเสพติดและรถทะเบียน ขธ 3592 ชร. คาดว่าเป็นรถที่ใช้ในการปิดท้ายขบวนที่บริเวณหน้าวัดทุ่งเป้า ต.วังเหนือ


โดยการปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ลักลอบขนยาเสพติดได้จำนวน 7 คน หลบหนีได้ 1 คน จากการตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 3 กระสอบ อยู่บริเวณท้ายเบาะหลังคนขับของรถโตโยต้ารีโว่ 4 ประตูสีขาวทะเบียน ขข 8315 ชร. จากการตรวจนับขั้นต้น มีจำนวน 600,000 เม็ด กระสอบละ 200,000 เม็ด เป็นชนิดแล็คซัส กับเล็คซัส 999 ผสมกัน จากการตรวจอบเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าได้นำยาเสพติดลักลอบจากบ้านแก่งหลวงใน ต.ห้วยชมพู อ.เมือง จังหวัดเชียงราย ขับหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ด่านเข้าสู้ถนน อ.พาน ขึ้นดอยผาวีออกมาตามเส้นทาง ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จังหวัดลำปาง ปลายทางยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างสอบปากคำ ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว

(มีคลิป)เชียงใหม่ เสียง 2 นักเรียนอายุ 19 ปีหากได้เงินดิจิทัล 1 หมื่น สิ่งแรกใช้เป็นทุนการศึกษา

เชียงใหม่ เสียง 2 นักเรียนอายุ 19 ปีหากได้เงินดิจิทัล 1 หมื่น สิ่งแรกใช้เป็นทุนการศึกษา มีเงินใช้จ่ายประจำวัน เพราะบ้านอยู่ไกลต่างอำเภอ ยังทำงานร้องเพลงหารายได้ใช้จ่ายประจำวันลดรายจ่ายของผู้ปกครอง เงินก้อนนี้มีประโยชน์อยากให้รัฐบาลปรับการใช้ เปิดเกณฑ์การใช้เพิ่ม นอกจากนี้หากไม่กำหนดระยะเวลาใช้จะส่งผลดี เพราะหลังจากตนจบแล้วก็จะเข้าศึกษาต่อ หากมีเงินก้อนนี้เหลือจะได้นำไปใช้ต่อสถานศึกษาใหม่ได้อีกด้วย

มาฟังเสียงของน้องนักเรียน 2 คน หากเข้าเกณฑ์ได้รับเงินดิจิทัลจากรัฐบาล 1 หมื่น จากวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ ชั้นปวส. คนแรกนางสางอังคณา ปู่ทุน อายุ 19 ปี อยู่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เรียนสาขาวิชาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กล่าวว่าสำหรับเงินดิจิทัล 1 หมื่นที่รัฐบาลจะแจกให้ตั้งแต่อายุ 16 ปีนั้น ส่วนตัวเองหวังต้องการที่จะได้เงินก้อนนี้ สิ่งแรกที่จะนำไว้ไปใช้เป็นค่าเทอม ทุนการศึกษา แบ่งจ่ายใช้กับน้องสาว ที่ตอนนี้จากบ้านมาเรียนในตัวเมืองเชียงใหม่ เช่าหอพัก มีค่าใช้ในแต่ละวัน นอกจากเรียนแล้วตอนกลางคืนยังทำงานเสริมร้องเพลงตามร้านอาหารทั่วไป เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ ทั้งค่างเทอม ค่าหอพัก ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันและยังมีค่าอุปกรณ์การเรียน

ด้านนายธีรภัทร ศรีวรรณ์ อายุ 19 ปี เรียนสาขาช่างยนต์ กล่าวว่าเงินก้อนนี้หากได้รับมีควาสำคัญมาก จะได้นำมาจ่ายค่าเล่าเรียน ต่อยอดในการซื้อกีต้า อุปกรณ์เครื่องดนตรี เพราะตนเองทำงานเสริมเล่นดนตรีตามร้านอาหารช่วงค่ำเช่นกัน หาเงินใช่จ่ายส่งเสียตนเอง เช่นเดียวกับร้องอังคณา เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ ตนเองบ้านอยู่อำเภอแม่ริม อยากให้รัฐบาลแก้ไขเกณฑ์การรับการและการใช้จ่ายให้เปิดกว้างขึ้น นอกจากนี้หากไม่กำหนดระยะเวลาใช้จะส่งผลดี เพราะหลังจากตนจบแล้วก็จะเข้าศึกษาต่อ หากมีเงินก้อนนี้เหลือจะได้นำไปใช้ต่อสถานศึกษาใหม่ได้อีกด้วย

ซึ่งทั้งสองคนพูดเสียงเดียวกัน หวังในรัฐบาล แก้เกณฑ์การใช้จ่าย รัศมีการใช้ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด เพราะตนอยู่ในเมือง หากจำกัดเฉพาะอำเภอ รัศมี 4 กิโลเมตร ทำให้ต้องเดินทางไปกลับเพื่อใช้จ่าย หากสามารถใช้ได้ทั้งจังหวัดจะส่งผลดี และเงินดิจิทัลสามารถใช้จ่ายได้หลากหลายไม่ใช้จำกัดเฉพาะซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคได้อย่างเดียว

(มีคลิป)เชียงใหม่ นายกฯไทยโรงแรมเหนือบนฝากรัฐบาลเงินดิจิทัล 1 หมื่นควรปรับให้ใช้ด้านการท่องเที่ยว

(มีคลิป)เชียงใหม่ นายกฯไทยโรงแรมเหนือบนฝากรัฐบาลเงินดิจิทัล 1 หมื่นควรปรับให้ใช้ด้านการท่องเที่ยวด้วย แนะเราเที่ยวด้วยกัน นำมาผสมผสานใช้เพื่อให้การกระจายตัวของเม็ดเงินลงไปถึงทุกด้าน ทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจการใช้จ่าย ควรยกเลิกการใช้จ่ายเฉพาะพื้นที่ จำกัดระยะทางการใช้

default

นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) กล่างถึงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่บาทของรัฐบาล เพื่อให้การกระจ่ายเม็ดเงินให้ครอบคลุมไปทุกภาคส่วน ไปทุกพื้นที่แนะนำรัฐบาลควรจะแก้เกณฑ์การใช้เงิน ไม่ควรจำกัดเฉพาะพื้นที่ระยะทาง ควรจะเปิดให้กว้างโดยนำภาคการท่องเที่ยวเข้ามาเสริมสามารถใช้จ่ายในด้านการท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวจะทำให้เม็ดเงินหมุนเวียน เศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น อย่างการนำเราเที่ยวกันมาปรับใช้ หรือผสมผสานกับการใช้จ่าย หากรัฐบาลจะกำหนดต่อคนนใช้การท่องเที่ยวไม่เกิน 5 พัน ซึ่งเงิน 5 บาทในการท่องเที่ยวอย่างน้อยได้ 2 วัน 1 หรือ 3 วัน 2 คืน ทำให้มีการใช้จ่ายเงินตรงนี้เพิ่มขึ้น

ซึ่งมองถึงแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นนี้ ภาคการท่องเที่ยวจะไม่ได้อะไร ลำบากเลยที่จะนำเงินนี้มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว อย่างเราเที่ยวด้วยกัน ต้องจองที่พักเข้ามาทำให้มียอดจองร้อยละ 70-80 % เพราะสามารถนำไปใช้จังหวัดอื่นส่งผลดีมาก แต่หากเงินดิจิตอลก้อนนี้มองแล้วด้านการท่องเที่ยวคงไม่ได้อะไร แต่จะส่งผลดีต่อผู้ค้าขายสารธณูปโภค เกี่ยวกับอาหารกินจะได้ประโยชน์ส่วนนี้ รัฐบาลควรปรับเกณฑ์เพื่อให้เกิดการการะจายเม็ดเงินจะช่วยส่งผลดีขึ้น

 

(มีคลิป) เชียงใหม่ ยอดดอยอินทนนท์ลด 8 องศา ยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มต่อเนื่อง

เชียงใหม่ ยอดดอยอินทนนท์ลด 8 องศา ยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มต่อเนื่อง ฝากถึงนักท่องเที่ยว สามารถซื้อบัตรค่าบริการเขข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซื้อบัตรบริการผ่านช่วงทางออนไลน์ที่แอพพลิเคชั่น QueQ และนำQRCODE สแกนผ่านด่านเข้าท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องจอดรอคิวซื้อตั๋วนาน

เป็นอากาศหนาวต่ำสุดแรกของฤดูกาลท่องเที่ยว เดือนพฤศจิกายน ยอดดอยอินทนนท์ เลขตัวเดียวเป็นวันที่ 2 เช้าวันนี้ลดลงมาต่ำสุดวัดได้ 8 องศาเซลเซียส ส่วนจุดเช็คอินแสงแรกยามเช้าวัดได้ 11 องศาเซลเซียส และที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนท์วัดได้ 16 องศาเซลเซียส สภาพท้องฟ้าเปิดนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปรอชมแสงแรก ที่ค่อยโผล่ขึ้นจากขอบฟ้า สาดแสงสีเหลือทองกระทบทะเลหมอก ตัดกับเงามืดที่กำลังงดงาม


สถิติของนักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 1,694 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1,435 คน ยอดรวมจำนวน 3,129 คน ยานพาหนะ 757 คัน ฝากถึงนักท่องเที่ยว สามารถซื้อบัตรค่าบริการเขข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซื้อบัตรบริการผ่านช่วงทางออนไลน์ที่แอพพลิเคชั่น QueQ และนำQRCODE สแกนผ่านด่านเข้าท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องจอดรอคิวซื้อตั๋วนาน

(มีคลิป) เชียงใหม่ ยี่เป็งเชียงใหม่คึกคักโรงแรมในเมืองนทท.ต่างชาติจองแล้วกว่าร้อยละ 90 %บางแห่งเต็ม

เชียงใหม่ ยี่เป็งเชียงใหม่คึกคักโรงแรมในเมืองนทท.ต่างชาติจองแล้วกว่าร้อยละ 90 %บางแห่งเต็ม นักท่องเที่ยวไทยต้องรีบจองห้องพักล่วงหน้าได้แล้ว อีกทั้งสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เข้าสู่ฤดูหนาวฤดูกาลท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติก็สวยงาม ทำให้เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามา เพราะการจองห้องพักในปีนี้มีจองเข้ามาต่อเนื่องยาวไปจนถึงสิ้นปี

นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) กล่าวว่าในห้วงเทศกาลยี่เป็ง หรือลอยกระทงของจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้คึกคักมาก ยอดจองห้องพักที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ในเฉพาะตัวเมืองเชียงใหม่ จองไปแล้วกว่าร้อยละ 90 % เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากยุโรป เกาหลี และญี่ปุ่น มีอาเซียนสิงคโปร์ และมาเลเซีย โรงแรมบางแห่งเต็มแล้ว ทั้งระดับ 3 4 และ 5 ดาว เกือบเต็มและเต็ม อย่างดรงแรมที่ตนเป็นผู้บริหารก็เต็มแล้ว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจากยุโรปจะเดินทางมาเอง แบบครอบครัว เป็นกรุ๊ปทัวร์ไม่มากหนัก ก็จะมาซื้อทัวร์ และร่วมกิจกรรมที่โรงแรมจัดขึ้นให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นที่ชื่นชอบมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่จองเข้ามามากที่สุด

อย่างไรก็ตามฝากถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวขอให้ติดต่อสอบถามจองที่พักไว้ล่วงหน้า เพราะในตัวเมืองสมาชิกของสมาคมเกือบเต็มและเต็มแล้ว ปีนี้บรรยาการการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเนื่องจากมีหลายพื้นที่จัดกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยวได้สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมของชาวล้านนา อีกทั้งสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เข้าสู่ฤดูหนาวฤดูกาลท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติก็สวยงาม ทำให้เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามา เพราะการจองห้องพักในปีนี้มีจองเข้ามาต่อเนื่องยาวไปจนถึงสิ้นปี

(มีคลิป)เชียงใหม่ สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง อ.แม่ริม เปิดแล้วจัดใหญ่ขยายพื้นที่ 40 ไร่เดินชมเซลฟี่อย่างจุดใจ

เชียงใหม่ สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง อ.แม่ริม เปิดแล้วจัดใหญ่ขยายพื้นที่ 40 ไร่เดินชมเซลฟี่อย่างจุดใจ เพิ่มพรรณไม้ดอกไม้สีสันสวยงาม จุดถ่ายภาพเซลฟี่ เสริมดอกกระดาษจุดนั่งพักให้บริการอาหารเครื่องดื่ม ขยายเวลาเปิดไปจนถึงเที่ยงคืน มีแสงไฟ บอลลูนมาให้ได้ชม ขยายเปิด 6:00-24:00น. ทุกวัน

เปิดแล้วสวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง ซอย 10 ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งสวนดอกไม้ชื่อดังแหล่ท่องเที่ยวของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากดอยม่อนแจ่ม นักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ต้องไม่พลาดแวะเที่ยวชม ถ่ายภาพเซลฟี่เก็บภาพสวยงามความประทับใจ ในปีนี้ป้านกเอี้ยง หรือนางสาวปราณี ศรีสวัสดิ์ เจ้าของสวนบอกว่าเปิดให้บริการมาแล้ว 5 ปี ทุกปีจะมีการเพิ่มตรีม พร๊อพถ่ายภาพ ในปีนี้จัดใหญ่ขยายพื้นที่ออกไปกว่า 40 ไร่ เพียงสัมผัสแรกเดินเข้ามาจะเห็นทุ่งดอกไม้หลากหลายสี มีจุดเวิร์คช็อป ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้วาดภาพ ของภายในสวน มีกุหลาบหลากหลายสี สวนดอกมากะเรต ดอกคัตเตอร์ ดอกทานตะวัน ดอกคอสมอส ดอกหญ้า ดอกเสี้ยนฝรั่งและดอกกระดาษ ที่หายไป นอกจากนี้มีดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวสนใจจะซื้อหากลับไป ยังมีช่างภาพไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้เปิดโซนคาเฟ่ ให้บริการอาหารเครื่องดื่ม ขยายเวลาปิดไปจนถึงเที่ยงคืน เสริมไฟฟ้าส่องสว่างให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาได้ถ่ายภาพอีกหนึ่งบรรยากาศของยามค่ำคืน ที่จะงดงามไปอีกหนึ่งรูปแบบ พร้อมบอลลูน มาโชว์ให้ได้ถ่ายภาพในห้วงเย็น ขณะเดียวกันนำความน่ารักของไก่ต๊อกเข้ามาให้นักท่องเที่ยวได้ชมซึ่งดอกไม้ตอนนี้เริ่มออกดอกสวยงามตลอดชวงฤดูหนาวนี้ดอกไม้จะเริ่มค่อยบานออกดอกสลับกันตามโซนต่างๆ นักท่องเที่ยวเดินทางมาช่วงไหนก็มีดอกไม้สวยงามให้ได้ถ่ายภาพ สำหรับสอบถามได้ที่ สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง โทร. 068 3581 1852 เปิด 6:00-24:00น. ทุกวัน หรือทางเพจ สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง ค่าเข้าคนละ 50 บาทเด็กต่ำกว่า 5 ขวบเข้าฟรี ไม่จำกัดเวลาและไม่ต้องจองล่วงหน้า

เชียงใหม่ ตม.เชียงใหม่ ตรวจเข้ม ม.38 ปรับเจ้าบ้านไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

เชียงใหม่ ตม.เชียงใหม่ ตรวจเข้ม ม.38 ปรับเจ้าบ้านไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 รักษาราชการแทน ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4 รักษาราชการแทน ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ตรวจเข้มพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างเต็มรูปแบบ

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ศราวุธ วะเทผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และ

พ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานความมั่นคงภายในพื้นที่ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ จับกุมและเปรียบเทียบปรับเจ้าบ้าน สัญชาติไทย 1 ราย โดยกล่าวหาว่าเป็นเจ้าบ้านฯ รับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง และได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.บ.ค้ามนุษย์, พ.ร.ก.การทำงาน และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทราบ

วิธีการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยสำหรับเจ้าบ้านหรือผู้ครอบครองเคหะสถาน สามารถดำเนินการได้ 3 วิธีการ ดังนี้

1. สามารถนำเอกสารมาดำเนินการด้วยตนเอง หรือ มอบหมายให้ผู้อื่นนำเอกสารมาแจ้ง ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองในเขตพื้นที่ที่คนต่างด้าวพักอาศัย (ตามวันและเวลาราชการ) .

2. แจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ที่อยู่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ 71 ม.3 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ 50200 หรือตามที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่คนต่างด้าวพักอาศัย

3. แจ้งทางอินเตอร์เนท (Internet) โดยดำเนินการได้ที่เว็บไซต์ www.immigration.go.th ในหน้าต่างการแจ้งที่พักอาศัย

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่

ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755