ผู้เขียน: sirapress

ขนส่งเชียงใหม่ สาขาอำเภอแม่แตงเสริมสร้างวินัยจราจร ให้กับนักเรียนนายสิบตำรวจจำนวน 100 นาย

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ สาขาอำเภอแม่แตง และกองกำกับการ 5 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายนเรศวรมหาราช อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ บูรณาการร่วมกันจัดอบรมให้ความรู้เสริมสร้างวินัยจราจร ให้กับนักเรียนนายสิบตำรวจ ที่จะจบหลักสูตรในปีนี้ จำนวน 100 นาย ณ ห้องเรียนอาคารกองร้อยที่ 4 กองกำกับการ 5 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายนเรศวรมหาราช อำเภอแม่แตง เชียงใหม่

โดยมีวิทยากรจากภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ได้แก่ สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ สถานีตำรวจภูธรแม่แตง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าเชียงใหม่ ร่วมบรรยายและสาธิตเทคนิคการขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับนักเรียนนายสิบตำรวจเพื่อขยายการรับรู้นำไปสู่สังคมหลังจากจบหลักสูตร ต่อไป

เปิดกาดย้อนยุคไทเขิน บ้านมอญ อ.สันกำแพง 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ชิม ช้อป ใช้ ผลิตภัณฑ์จากคนไทเขิน มีการตกแต่ง แต่กายของพ่อค้าแม่ค้าแบบไทเขิน เพื่อเป็นการยกระดับชุมชน พัฒนาความรู้ ความสามารถ ภูมิปัญญา และความคิดสร้างสรรค์ในผลิตภัฑณ์ต่างๆ ให้เกิดมูลค่า และสร้างรายได้

ผู้สื่อข่าวพาไปที่วัดบ้านมอญ (ต้นโพธิ์แฝด) หมู่ที่ 1 ตำบลสันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นายสิทธิศักดิ์ จำเกิด นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ ผู้แทนวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดกาดไทเขินบ้านมอญต้นโพธิ์แฝด “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” โดยมีพระครูสังฆภารวิมล (รัตน์ติพงศ์ มหาคมฺภีรวํโส) เจ้าอาวาสวัดบ้านมอญ (ต้นโพธิ์แฝดศักดิ์สิทธิ์) ร.ต.อ.สวิง ราชอุ่น ประธานเครือข่ายไทเขินวัดบ้านมอญต้นโพธิ์แฝดกล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน โดยมีนางวรรณพร กอบพึ่งตน ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดสันกลางเหนือ คณะกรรมการชุมชนทั้ง 7 ป๊อก ผู้นำชุมชน พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้

นายสิทธิศักดิ์ จำเกิด นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ ผู้แทนวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าการสืบสานวัฒนธรรมไทเขินชุมชนไทเขินบ้านมอญต้นโพธิ์แฝด ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ในวันนี้นั้นเพื่อเป็นไปตามที่รัฐบาลมีนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เพื่อเป็นการยกระดับพัฒนาความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์คนไทย ให้เกิดมูลค่า และสร้างรายได้ โดยมีเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจประเทศให้พ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และทำให้ประชาชนหลุดพ้นความยากจนนั้น ชุมชนไทเขินบ้านมอญต้นโพธิ์แฝด ร่วมกับเทศบาลตำบลสันกลาง และเครือข่ายไทเขินบ้านมอญต้นโพธิ์แฝด ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมงานกาดไทเขินบ้านมอญต้นโพธิ์แฝด1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน สู่เส้นทางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ “สร้างอาชีพ สร้างรายได้” ให้กับประชาชนโดยนำทุนทางวัฒนธรรมมาพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ก่อให้เกิดรายได้ และเศรษฐกิจขึ้นในระดับครอบครัวและชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

พระครูสังฆภารวิมล (รัตน์ติพงศ์ มหาคมฺภีรวํโส) เจ้าอาวาสวัดบ้านมอญ (ต้นโพธิ์แฝดศักดิ์สิทธิ์) กล่าวว่าจัดกิจกรรมเปิดกาดไทเขินบ้านมอญต้นโพธิ์แฝด“1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชาวบ้านแสดงสินค้าเพื่อเป็นการพัฒนาพื้นที่ชุมชนและวัดให้ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายวัดและชาวบ้าน อีกส่วนชาวบ้านก็จะได้มีรายได้จากการนำสินค้าพื้นบ้านที่ปลูกเองและผลิตเองนำมาจำหน่ายเพื่อให้เกิดรายได้นำช่วยเหลือทางครอบครัวซึ่งทางวัดก็จะได้มีพุทธศาสนิกชนได้เดินทางมาเที่ยวที่วัดเพื่อสักการะต้นโพธิ์แฝดพร้อมเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของชุมชนไทยเขินบ้านมอญซึ่งปัจจุบันนี้

สถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ของทางวัดก็คือพระวิหารวัดบ้านมอญซึ่งเป็นวิหารแบบดั้งเดิมก่อสร้างขึ้นเมื่อสมัยพระเจ้ากาวิละ 200 กว่าปีมาแล้วซึ่งถือว่าวัดบ้านมอญเป็นจุดศูนย์กลางของพี่น้องประชาชนที่ทำให้ทั้งวัดกับทางบ้านเป็นจุดศูนย์รวมในการร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อสร้างเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของตำบลสันกลาง ที่ร่วมกันเชิดชูอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทเขิน ของวัดบ้านมอญนี้ด้วย ซึ่งการเปิดกาดไทเขินในครั้งถือว่าเป็นครั้งแรกนำร่อง ซึ่งต่อไปอาจจะดำเนินการเปิดเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งในตอนนี้มีผู้สนับสนุนจะขยับขยายพื้นที่เปิดบริเวฯด้านหน้าของทางวัดเพื่อเพิ่มเติมร้านค้าของชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น และพัฒนาภูมิทัศน์บริเวณลำคลองให้เป็นพื้นที่สามารถจับจ่ายสินค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ภายในงานมีกิจกรรมการแสดงฟ้อนไทเขินบ้านมอญต้นโพธิ์แฝด, การแสดงรำไทเขิน โดยเครือข่ายพันธมิตรไทเขิน วัดอินทาราม (วัดขี้เหล็กหลวง) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่, การแสดงตีขิม จากเยาวชน ด.ช.ชนเมช ศรีใส จาก โรงเรียนยุวทูตศึกษาพัฒนาราชพฤกษ์เชียงใหม่, กิจกรรมเดินเยี่ยมชมกาดไทเขิน โดยมีประธานเครือข่ายชุมชนไทเขินนำประธาน และผู้มีเกียรติร่วมเดิน ชม ชิม ช้อป ใช้ อาหาร ขนม และผลิตภัณฑ์จากชุมชนไทเขิน.

นบ.ยส.35 ร่วมกับ ปปส.ภาค 5 แถลงข่าวการเปิดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนชายแดนภาคเหนือ ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เน้นการทำงานบูรณาการเชิงรุก ลดความเดือนร้อนของประชาชน

พลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) แถลงข่าวการเปิดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนชายแดนภาคเหนือ ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ร่วมด้วย นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5, นายเสียงชัย สุมิตรวสันต์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ รักษาการในตำแหน่ง รองอธิบดีอัยการภาค 5, พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ,พลตรี ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร, พลตรี ยุทธภูมิ บุญฤทธิ์ รองเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย , พลตำรวจตรี อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3, พันเอก ชาญชัยวัฒน์ เปล่งสันเทียะ เลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2, พันตำรวจเอก รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ,พันตำรวจเอก ทรงกริช ออนตะไคร้ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่, นายมานพ แสงโสธร ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, แม่ฮ่องสอน และตาก

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ตามที่รัฐบาลได้ผลักดันให้ คณะกรรมการ ป.ป.ส. ออกประกาศกำหนดพื้นที่ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ 6 จังหวัด 21 อำเภอชายแดนภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่, จ.เชียงราย, จ.แม่ฮ่องสอน, จ.พะเยา, จ.น่าน และ จ.ตาก

ปัจจุบัน หน่วยงานภายใต้ นบ.ยส.35 ได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ชายแดนภาคเหนือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขึ้น โดยได้รวบรวมแผนงานและงบประมาณในการดำเนินงาน รวมทั้ง ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานในปีที่ผ่านมา และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การปฏิบัติงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 นี้ มีความต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้น อันจะสามารถบรรลุผลตามที่ได้ตั้งไว้เพื่อ “ ต้องการลดการนำเข้ายาเสพติดจากนอกประเทศ และ ลดการส่งออกหรือเป็นทางผ่านสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในการนำไปผลิตยาเสพติดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ” ภายใต้กลไกการทำงานของ นบ.ยส.35 ที่มีส่วนดำเนินการ 5 ส่วนได้แก่ ส่วนบังคับบัญชา, ส่วนอำนวยการ, ส่วนสกัดกั้น, ส่วนปราบปรามและขยายผล และ ส่วนป้องกัน ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมยาบ้ากว่า 260 ล้านเม็ด, ไอซ์ 3,952 กก., เฮโรอีน 357.4 กก., คีตามีน 561 กก., ดำเนินคดีผู้ต้องหา 1,621 คน ปะทะกลุ่มขบวนการเสียชีวิต 31 ศพ

นักท่องเที่ยวจีนเข้าเชียงใหม่อันดับ 1 สถิติ 10 ประเทศผู้โดยสารบินตรงเข้าสู่เชียงใหม่ สค. กย. ตค.และอีก 16 วันเดือนพย.67 ยอดรวมนักท่องเที่ยว จำนวน 363,827 คน

 

นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เผยผ่านทางเพจ Visit Chiang Mai รายงานสถิติผู้โดยสาร เที่ยวบินตรง จาก ต่างประเทศสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประจำเดือน สิงหาคม 25671. China 35,166 ,2. Korea 23,961 ,3. Taiwan 14,986 ,4. Hong Kong 6,344 ,5. Thai 5,756 ,6. Malaysia 4,463 ,7. USA 3,281 ,8. Singapore 2,565 ,9. Myanmar 2,127 ,10. Japan 1,938 Total = 106,525 Average per day: 3,436

ขอรายงานสถิติผู้โดยสาร เที่ยวบินตรง จาก ต่างประเทศสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประจำเดือน กันยายน 2567 ,1. China 24,432 ,2. Korea 21,673 ,3. Taiwan 12,623 ,4. Thai 6,634 ,5. Malaysia 4,523 ,6. HK 3,985 7. USA 2,959 ,8. Singapore 2,956 9. Myanmar 1,696 ,10. Japan 1,110 Total = 89,038Average per day: 2,968

ขอรายงานสถิติผู้โดยสาร เที่ยวบินตรง จาก ต่างประเทศสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประจำเดือน ตุลาคม 2567 1. China 24,946 ,2. Korea 21,673 ,3. Taiwan 11,869 ,4. Thai 12,216 ,5. Malaysia 4,620 ,6. HK 4,168 ,7. USA 4,030 ,8. Singapore 2,921 ,9. Myanmar 1,919 ,10. UK 1,360 Total = 100,433 Average per day:3,240

ล่าสุดรายงานสถิติ ผู้โดยสาร เที่ยวบินตรง จาก ต่างประเทศสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประจำเดือนระหว่าง 1-16 พฤศจิกายน 2567 อันดับ 1. CHINA 14,390 ,อันดับ2. KOREA 12,546 ,อันดับ 3. TAIWAN 7,349 ,อันดับ4. THAI 5,075 ,อันดับ 5. MALAYSIA 4,470 ,อันดับ 6. Hong Kong 4,258 ,อันดับ 7. USA 4,070อันดับ 8. JAPAN 2,886 ,อันดับ 9. SINGAPORE 2,456 และอันดับ 10. United Kingdom 1,103 TOTAL: 67,831 Average per day: 4,239

จากสถิติพบว่านักท่องเที่ยวจากจีนมาอันดับ 1 เข้ามาสู่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นคน เพียง 16 วันเดือนพฤศจิกยาน 2567 เดินทางเข้ามาแล้ว 14,390 รองลงมาอันดับ 2 จากเกาหลี เฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นคน เช่นเดียวกัน 16 วันเดือนพฤศจิกายน 2567 เดินทางเข้ามาแล้ว 12,546 อันดับ 3 เป็นไต้หวัน เฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นคนเศษ ล่าสุด 16 วันเดือนพฤศจิกายน 2567 เดินทางเข้ามา 7,349 ยอดรวมนักท่องเที่ยว เดือนสิงหาคม กันยายน ตุลาคม และ 1-16 พฤศจิกายน 2567 จำนวน 363,827 คน

นอกจากนี้สามารถติดตามข้อมูล การท่องเที่ยวของเมือง ประวัติศาสตร์ล้านา รวมถึง ข้อมูลกิจกรรมทางการท่องเที่ยวหลายประเภท ที่มีข้อมูล ค่าเข้าชม ราคาทัวร์ และรายละเอียดโปรแกรมทัวร์ รถเช่า ที่พัก และอีกมากของผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนกว่า 100 ราย ให้เลือกตามความสนใจ มีการอัพเดทข้อมูลตลอดอย่างต่อเนื่อง ทาง Online ได้ที่ www.VisitChiangMai.co/travel พร้อมระบบ Offline ผ่านโปสเตอร์และแผงบอร์ดสแกน QR Code ทั่วเมืองเชียงใหม่กว่า 400 จุด

ลุ้นเหมยขาบแรกยอดดอยอินทนนท์ลดฮวบ 6 องศา ครั้งที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน กิ่วแม่ปาน 9 องศา สถิติการพบปรากฎการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปรียบเทียบในวันนี้ที่อุณหภูมิ 6 องศาเซลเซียส เคยเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 8.11.2565 อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส พบบริเวณลานจอดรถหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่อน.5 (ยอดดอย)

ยอดดอยอินทนนท์ เช้าวันนี้อุณหภูมิลดฮวบลงมาเหลือ 6 องศาเซลเซียส นับเป็นครั้งที่ 2 ของเดือนพศจิกายน 2567 หลังจากประกาศเข้าฤดูหนาวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ครั้งแรกลดลงไปต่ำสุดรอบปีนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 วัดได้ 6 องศาเซลเซียส ส่วนจุดเช็คอินยอดอิต ชมแสงแรกกิ่วแม่ปานอุณหภุมิวัดได้ 9 องศาเซลเซียส อากาศยังไม่เป็นใจแสงแรกทำงานช้า มีกลุ่มเมฆปกคลุมบดบัง มีไอหมอกลอยลงมาให้ได้สัมผัส แต่ไม่ได้ลงปกคลุมทำให้อากาศปิด และที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุณหภูมิวัดได้ 14 องศาเซลเซียส สถิตินักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 1,988 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 1,729 คน ยอดรวมจำนวน 3,717 คน ยานพาหนะ 905 คัน

ในปีนี้มาลุ้นการเกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ ตามภาษาเหนือ ครั้งแรกในรอบปีนี้ 2567 ว่าจะเกิดขึ้นวันไหน หลังอุณหภูมิลดลงไปต่ำ แต่ปัจจัยสภาพอากาศลมสงบ อากาศเปิด อุณหภูมิพื้นดินต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา นำสถิติการพบปรากฎการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ เกิดขึ้นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มาเปรียบเทียบในวันนี้ที่อุณหภูมิ 6 องศาเซลเซียส เคยเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 8.11.2565 อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส พบบริเวณลานจอดรถหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่อน.5 (ยอดดอย) อุณหภูมิต่ำสุด วันที่ 2.1.2566 อุณหภูมิต่ำสุด ที่ยอดดอย 2 องศาเซลเซียส พบบริเวณลานจอดรถหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่อน.5 (ยอดดอย) และอุณภูมิสูงสุดวันที่16.1.2566 อุณหภูมิต่ำสุด ที่ยอดดอย 8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดที่กิ่วแม่ปาน 2 พบบริเวณยอดดอยอินทนนท์และกิ่วแม่ปาน

ผ่าน 19 วันนักท่องเที่ยวเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานเกือบ 1.5 หมื่นคน เพิ่มจากปีที่แล้ว 208 คน ส่วนสถิตินักท่องเที่ยวของปี 2566 -2567 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤสจิกยาน 2566 ถึง 31 พฤษภาคม 2567 ยอดรวมจำนวน 115,907 คน แล้วปิดให้ธรรมชาติฟื้นฟูเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ประจำปีในช่วงฤดูฝน

นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เผยว่าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้ปิดให้ธรรมชาติฟื้นฟูประจำปีในช่วงฤดูฝนนานถึง 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 ตุลาคมของทุกปี เพื่อให้ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู ส่วนในปีนี้หลังจากเปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 พร้อมเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ผ่านไป 19 วัน ตั้งวันที่ 1 ถึง วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ประจำเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานอำนวยความสะดวกและให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติ เมื่อวานนี้ 19 พฤศจิกายน 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวจำนวน 828 คน 250 กลุ่ม แบ่งประเภทเป็นชายไทย 241 คน ,หญิงไทย 270 คน ,ชายต่างชาติ 172 คน ,หญิงต่างชาติ 145 คน ยอดสะสมรวมเดือน พฤศจิกายน 2567 จำนวน 14,428 คน 6,960 กลุ่ม หากเปรียบเทียบในห้วงเดียวกันของปี 2566 วันที่ 1 -19 พฤศจิกายน 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวมเดือน พฤศจิกายน 2566 จำนวน 14,220 คน ปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 208 คน

ส่วนสถิตินักท่องเที่ยวของปี 2566 -2567 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 31 พฤษภาคม 2567 แล้วปิดให้ธรรมชาติฟื้นฟูเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ประจำปีในช่วงฤดูฝน มาดูสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ช่วงเปิดการท่องเที่ยวเดือนพฤศจิกายน 2556 จำนวนนักท่องเที่ยวจำนวน 23,272 คน เดือนธันวาคม 2566 จำนวน 39,266 คน ,เดือนมกราคม 2567 จำนวน 25,944 คน ,เดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 13,317 คน ,เดือนมีนาคม 2567 จำนวน 5,536 คน ,เดือนเมษายน 2567 จำนวน 3,353 คน และเดือนพฤษภาคม 2567 จำนวน 3,219 คน ยอดรวมจำนวน 115,907 คน ซึ่งในห้วงฤดูหนาวจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มโดยเฉพาะช่วงสิ้นปี แล้วตัวเลขค่อยลดลงไปจนถึงปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ประจำปี เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน

ในห้วงระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2567 พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35)และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ประกอบด้วย บก.สกัดกั้น นบ.ยส.35, บก.ควบคุมพื้นที่พิเศษ นบ.ยส.35, ฉก.ไชยานุภาพ และ ฉก.ทัพเจ้าตากการเดินทางครั้งนี้ เพื่อมอบนโยบาย การทำงาน ติดตามสถานการณ์ยาเสพติด การจัดวางกำลังสกัดกั้นยาเสพติด รับทราบ ผลการปฏิบัติงาน และขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ รวมทั้งรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะในการทำงาน

หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) มีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุม 6 จังหวัด 21 อำเภอ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ (อ.เวียงแหง, อ.เชียงดาว, อ.ไชยปราการ, อ.ฝาง, อ.แม่อาย), จ.เชียงราย (อ.แม่ฟ้าหลวง, อ.แม่จัน, อ.แม่สาย, อ.เชียงแสน,
อ.เชียงของ, อ.เวียงแก่น, อ.เทิง), จ.พะเยา (อ.ภูซาง), จ.น่าน (อ.เฉลิมพระเกียรติ) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.ปาย, อ.ปางมะผ้า) และ จ.ตาก (อ.พบพระ, อ.แม่สอด อ.ท่าสองยาง , อ.แม่ระมาด และ อ.อุ้มผ้าง)

ผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 – 17 พ.ย. 67 มีเหตุการณ์สำคัญ 31 ครั้ง เหตุการณ์ (ปะทะ 6 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 25 ครั้ง) จับกุมยาบ้า 30.67 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,777 กก., เฮโรอีน 140 กก., เคตามีน 615.86 กก. Happy Water 4.8 กก. เคมีภัณฑ์ 880 ตัน ผู้ต้องหา 36 คน เปรียบเทียบในห้วงเวลาเดียวกัน มีย้าบ้าเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 8.97 ไอซ์ ร้อยละ 70 เฮโรอีน ร้อยละ 6 และ คีตามีน ร้อยละ 24

ทั้งนี้ ผบ.นบ.ยส.35 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของระเบียบวินัย และการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการปฏิบัติงานร่วมกัน พร้อมกำชับให้กำลังพลตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ร่วมมือร่วมใจกัน สกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณท์ไม่ให้เข้า-ออก ประเทศไทยและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมกันนี้ ผบ.นบ.ยส.35 ได้มอบงบประมาณ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน และมอบผ้าห่มกันหนาว เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยหนาวอีกด้วย

ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ สาขาบริหารธุรกิจ น้องนักศึกษายังอยู่ในช่วงเวลาเรียน ทางวิทยาลัยฯ ได้จัดกิจกรรมสืบสานประเพณียี่งเป็ง เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นขึ้น เกิดความตระหนักและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางวิทยาลัยจัดขึ้นในทุกปี แต่ในปีนี้ตระการตากว่าทุกปี อาจารย์ศิรภพ เจริญกุศล รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการศึกษา เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย อาจารย์ประสิทธิ์ ชูดวง รอง ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะผู้บริหาร หัวหน้าสาขางาน และนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่
จัดขึ้นในช่วงเวลาเรียน ของชมรมกิจกรรม ซึ่งเน้นกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมทั้งภายในและภายนอก เพิ่มทักษะด้านศิลปะการผลอตกระทง ทักษะการแสดงของนักศึกษา

1.การแข่งขันประดิษฐ์กระทงใบตองสร้างสรรค์ 2.การแข่งขันประดิษฐ์โคมประดับ และที่เป็นไฮไลท์ของงานนี้ก็คือ การแข่งขันการประกวดเทพียี่เป็ง ผู้ได้รับตำแหน่งเทพบุตรยี่เป็ง นายจักรพงษ์ ใจดวงขัด นักศึกษาสาขาธุรกิจดิจิทัล ห้อง DT.3102 ผลการตัดสินการแข่งขันเทพียี่เป็ง ผู้ได้รับตำแหน่งเทพียี่เป็ง นางสาวชัชนันท์ นาคราช นักศึกษาสาขาธุรกิจดิจิทัล ห้อง AC.1101 และการแข่งขันการประกวดเทพีจำแลง ผู้ได้รับตำแหน่งเทพีจำแลง นายมหพรรดิ์ นิลรังษี นักศึกษาสาขาการตลาด ห้อง MK.3101 บรรยายากาศภายในงานได้กลิ่นอายของประเพณีลอยกระทงสุดๆ ทั้งการแสดงโชว์บนเวทีต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ทางวิทยาลัยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการในการตัดสินกิจกรรมดังกล่าว จากหน่วยงานภายนอกร่วมสนับสนุนกิจกรรมอย่างมากมาย

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 พลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35 ) เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติงานเชิงรุกในการวางมาตรการสกัดกั้นบริเวณชายแดนของหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงนี้ส่งผลให้ เมื่อ 16 พ.ย. 67 เวลา 2130 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.นาหวาย สนธิกำลังร่วมกับ ฉก.ไชยานุภาพ กกล.ผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดชั่วคราว ด้านหน้า สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตรวจพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยขับเข้ามายังจุดตรวจแล้วเร่งเครื่องหลบหนี จึงได้ไล่ติดตาม พบรถยนต์กระบะคนดังกล่าว จอดทิ้งไว้บริเวณเส้นทาง บ.ใหม่พัฒนา ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาวฯ ไม่พบคนขับรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบ

ผลการปฏิบัติ ตรวจยึดรถกระบะ 1คัน พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 9 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 110 กก. ซุกซ่อนท้ายกระบะรถยนต์ ไม่พบผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางส่งให้ สภ.นาหวาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

หมดลอยกระทงแล้ว ยามรุ่งอรุณ ก่อนฟ้าสางไปชมแสงแรก ณ จุดยอดฮิตจุดเช็คอิน กิ่วแม่ปาน เช้านี้อุณหภูมิต่ำสุด 10 องศาเซลเซียส วันนี้แสงแรกสาดส่องสีทองสวยงาม ท้องฟ้าปิด มีทะเลหมอกและไอหมอกลอยมาปะทะใบหน้า เรียกว่าได้สปาหน้าแบบธรรมชาติ ทำให้หน้าใสหน้าเด้งๆ กันเลยทีเดียว ส่วนยอดดอยอินทนนท์ วัดได้ 11 องศาเซลเซียส และที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. 31 วัดได้ 15 องศาเซลเซียส

สถิตินักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้ 16 พฤศจิกายน 2567 นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 2,753 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1,914 คน ยอดรวมจำนวน 4,667 คน ยานพาหนะ 1,025 คัน วันนี้อุณหภูมิยังไม่หนาวมากแต่ได้สัมผัสถึงไอเย็นอ่อนๆโชยมาต่อเนื่อง ในเมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ 22 -23 องศาเซลเซียส