ผอ.เขื่อนแม่งัดเผยสถิติ 6 ครั้ง ปี 2532-ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บสูงเกิดระดับ ปีนี้น้ำมากสุดในรอบ 13 ปี

 

ผอ.เขื่อนแม่งัด เผยสถิติ 6 ครั้ง ตั้งแต่ ปี 2532-ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บสูงเกิดระดับ ซึ่งปีนี้ มีน้ำมากสุดในรอบ 13 ปี ล่าสุด 284 ล.ลบ.ม. คิดเป็น 107.23 % แผนส่งน้ำให้กับการปลูกพืชฤดูแล้งปี 67/68 ประมาณ 70,000,000 ลูกบาศก์เมตร โดยเริ่มส่งประมาณกลางเดือนธันวาคม 67 พื้นที่สองฝั่งลำน้ำปิงในเขตจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนประมาณ 180,000 ไร่ วางแผนการใช้น้ำประมาณ 75,000,000 ลูกบาศก์เมตรโดยเริ่มส่งประมาณต้นเดือนมกราคม 68


นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผู้อำนวยการเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าในปีนี้ขื่อนแม่งัดมีปริมาณน้ำมาก ความจุของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล 265 ล้านลูกบาศก์เมตร ล่าสุดวันนี้มปริมาณน้ำจำนวน 284.149 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 107.23 มีน้ำใช้การได้ 271.964 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน มีน้ำมากสุดในรอบ 13 ปี การระบายน้ำจะระบายน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าส่งให้กับอำเภอแม่แตงและอำเภอเชียงดาวบางส่วน อัตรา 12 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกฤดูฝน 67 ของเขื่อนจำนวน 30,000 ไร่ถึงสิ้นเดือน พฤศจิกายน รวมประมาณ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร แผนส่งน้ำให้กับการปลูกพืชฤดูแล้งปี 67/68 ในพื้นที่ ประมาณ 70,000,000 ลูกบาศก์เมตร โดยเริ่มส่งประมาณกลางเดือนธันวาคม 67 และส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่สองฝั่งลำน้ำปิงในเขตจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนประมาณ 180,000 ไร่ วางแผนการใช้น้ำประมาณ 75,000,000 ลูกบาศก์เมตรโดยเริ่มส่งประมาณต้นเดือนมกราคม 68

จากสถิติข้อมูลปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ตั้งแต่ ปี 2532-ปัจจุบัน เขื่อนแม่งัด สมบูรณ์ชล มีระดับเก็บกักน้ำสูงสุดเกินกว่าระดับเก็บกักปกติ (100%) มาแล้ว จำนวน 5 ครั้ง ในช่วงเวลาต่าง ๆ ดังนี้ครั้งที่ 1 .เมื่อปี 2537 ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน สะสมทั้งปี เท่ากับ 612.16 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสูงสุด (1 วัน) เท่ากับ 15.532 ล้านลูกบาศก์เมตร (วันที่ 1 กันยายน 2567 ) ปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุด เท่ากับ 294.300 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 111.06


ครั้งที่ 2 .เมื่อปี 2548 ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน สะสมทั้งปี เท่ากับ 620.27 ล้านลูกบาศก์เมตรปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสูงสุด (1 วัน) เท่ากับ 44.844 ล้านลูกบาศก์เมตร (วันที่ 28 กันยายน 2548) ปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุด เท่ากับ 309.060 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 116.63


ครั้งที่ 3.เมื่อปี 2554 ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสมทั้งปี เท่ากับ 489.58 ล้านลูกบาศก์เมตรปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสูงสุด (1 วัน) 20.451 ล้านลูกบาศก์เมตร (วันที่ 28 กันยายน 2554) ปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุด เท่ากับ 285.646 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 107.79
ครั้งที่ 4 .เมื่อปี 2565 ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสมทั้งปี เท่ากับ 389.420 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสูงสุด (1 วัน) เท่ากับ 8.785 ล้านลูกบาศก์เมตร (วันที่ 13 กันยายน 2565)ปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุด เท่ากับ 279.826 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 105.590


ครั้งที่ 5 .เมื่อปี 2566 ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสมทั้งปี เท่ากับ 244.40 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าเชื่อนสูงสุด (1 วัน) เท่ากับ 5.429๙ ล้านลูกบาศก์เมตร (วันที่ 12 กันยายน 2566) ปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุด เท่ากับ 285.479 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 107.73


ครั้งที่ 6 . ณ ปัจจุบัน ปี 2567 ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสม (1 ม.ค.- 31 ต.ค.67) เท่ากับ 335.78 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสูงสุด (1 วัน) เท่ากับ 22.298 ล้านลูกบาศก์เมตร (วันที่ 24 กันยายน 2567) ปริมาณน้ำเก็บกักสูงสุด เท่ากับ 301.280 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 113.69

 

 

 

เชียงใหม่ ทั้งฝนทั้งหนาวอากาศลดวูบในเมือง 19 องศา ยอดดอยอินทนนท์ 10 องศา

เชียงใหม่ ทั้งฝนทั้งหนาวอากาศลดวูบในเมือง 19 องศา ยอดดอยอินทนนท์ 10 องศา อุตุฯเหนือเดือนฉบับที่ 4 บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่และเชียงราย โดยยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนบริเวณยอดดอยจะมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนดแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือจะออกประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดสุดท้ายของหตุการณ์นี้


นายสุกฤษฎิ์ เกิดแสง ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือฉบับที่ 4 (131/2567)เรื่อง คลื่นกระแสลมตะวันตก วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือด้านตะวันตกมีฝนเกิดขึ้น บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่และเชียงราย โดยยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนบริเวณยอดดอยจะมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนดแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วยสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ http://www.cmmet.tmd.go.th หรือที่ 053-27797919 ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 06.00 น. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือจะออกประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดสุดท้ายของหตุการณ์นี้


ส่วนบรรยากาศเช้าวันนี้ในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังมีกลุ่มเมฆฝนปกคลุม ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไฟฟ้าส่องสว่างตามท้องถนนยังคงเปิดเหมือนอยู่ในห้วงใกล้ค่ำ ส่วนผลให้อุณหภูมิลดฮวบลงมา ในตัวเมืองเชียงใหม่วัดได้ 19 องศาเซลซียส อีกหลายพื้นที่จะต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะตามบนดอยสูงตัวเลขจะลดลงไปต่ำตามสภาพพื้นที่ความสูง ขณะที่ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิต่ำสุด 10 องศาเซลเซียส ยังมีฝนตก หมอกลงปกคลุมสภาพท้องฟ้าปิด จุดกิ่วแม่ปานอุณหภูมิวัดได้ 12 องศาเซลเซียส และที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุณหภูมิวัดได้ 15 องศาเซลเซียส สถิตินักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 1,017 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 995 คน ยอดรวมจำนวน 2,012 คน ยานพาหนะจำนวน 499 คัน

ตม.เชียงใหม่ คาดยี่เป็ง 14 – 17 พ.ย.67 มีนทท.ต่างชาติ เดินทางวันละ 4 หมื่น

ตม.เชียงใหม่ คาดยี่เป็งมีนทท.ต่างชาติวันละ 4 หมื่น พร้อมร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลลอยกระทง 2567


ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ตม.จว.เชียงใหม่ ร่วม “พิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลลอยกระทง 2567” จัดโดย ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธาน ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จว.เชียงใหม่ เพื่อเป็นการลดอาชญากรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลลอยกระทง


จังหวัดเชียงใหม่มีการจัดงานลอยกระทงในช่วงระหว่างวันที่ 14 – 17 พ.ย.67 มีกิจกรรมด้านประเพณี วัฒนธรรม จุดผางประทีป ปล่อยโคมลอย และยังมีหลากหลายกิจกรรม ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในจังหวัดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าวันละ 40,000 คน

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เขื่อนแม่กวงปีนี้น้ำมาก ฝนทิ้งท้ายไหลเติบเต็มต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการบริหารจัดน้ำในห้วงฤดูแล้ง

เขื่อนแม่กวงปีนี้น้ำมาก ฝนทิ้งท้ายไหลเติบเต็มต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการบริหารจัดน้ำในห้วงฤดูแล้ง สถิติปี 65 มีน้ำมากที่สุดจำนวน 243 ล.ลบ.ม. น้อยสุดปี 64 จำนวน 75 ล.ลบ.ม. คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำไหลต่อเนื่องวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 มีน้ำไหลเข้าจำนวน 800,000 ลบ.ม และวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 มีน้ำไหลเข้าจำนวน 600,000 ลบ.ม. แล้วค่อยลดลงตามลำดับตามและเข้าสู่ฤดูหนาว น้ำจะเข้าวันละ 200,000 – 400,000 ลูกบาศก์เมตร.ไปจนสิ้น เดือนธันวาคม 2567

นายอัธยา อรรณพเพ็ชร ผู้อำนวยการเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม เผยว่าปี 2567 เขื่อนแม่กวงมีปริมาณน้ำมากหลังจากเจอฝนตกหนักและเกิดน้ำใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถึง 2 ครั้งนั้น ล่าสุดวันนี้มีปริมาณน้ำจำนวน 210 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 80 จากความจุเต็ม 263 ล้าน ลูกบาศก์เมตร มีปริมาณมากกว่าปี 2566 มีน้ำจำนวน 198 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ยังคงมีน้ำไหลเข้าเติบต่อเนื่องจากฝนทิ้งท้ายฤดูฝนที่ตกลงมาในห้วง 2 วันที่ ผ่านมา ส่งผลให้เมื่อวานนี้วันนี้วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 มีน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวน 686,000 ลูกบาศก์เมตร และวันนี้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวน 647,000 ลูกบาศก์เมตร จำนวนน้ำไหลเข้าสะสมจำนวน 184 ล้าน ลูกบาศก์เมตร เมื่อวานนี้มีฝนตกปริมาณ 9 มิลลิเมตร และปริมาณฝนตกสะสมปี 2567 จำนวน 1,699 มิลลิมเตร

คาดการณ์วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 มีน้ำไหลเข้าจำนวน 800,000 ลบ.ม และวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 มีน้ำไหลเข้าจำนวน 600,000 ลบ.ม. แล้วค่อยลดลงตามลำดับตามและเข้าสู่ฤดูหนาว น้ำจะเข้าวันละ 200,000 – 400,000 ลูกบาศก์เมตร.ไปจนสิ้น เดือนธันวาคม 2567 อย่างไรก็ตามจากปริมาณน้ำที่มากในปีนี้ แต่ยังน้อยกว่าปี 2565 ซึ่งมีน้ำมากสุดถึง 243 ล้านลูกบาศก์เมตร และในปี 2564 มีน้ำน้อยที่สุดจำนวน 75 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ในปีนี้หากจำนวนน้ำที่ไหลเข้าต่อเนื่องแต่ปริมาณน้ำจะมากเท่ากับปี 2565

ไม่เกรงกลัวแก๊งไล่นกพิราบบนข่วงท่าแพยังลักลอบเข้ามาหารายได้ในช่วงเจ้าหน้าที่เทศกิจไม่อยู่

ไม่เกรงกลัวแก๊งไล่นกพิราบบนข่วงท่าแพยังลักลอบเข้ามาหารายได้ในช่วงเจ้าหน้าที่เทศกิจไม่อยู่ สบโอกาสรีบโปรยอาหารล้อนกพิราบให้บริการไล่นกแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาถ่ายภาพ ถ่ายคลิป อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงใหม่ ต้องใช้มาตรการเข้ม ตรวจจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บนข่วงท่าแพ เพื่อดำเนินการเอาผิดมิให้กลับมากระทำซ้ำได้อีก


ช่วงนี้บรรยากาศที่ ข่วงประตูท่าแพ แลนด์มาร์คที่สำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ต้องเดินทางมาเพื่อถ่ายรูป เซลฟี่ หรือไลน์สดบรรยากาศกลับไปยังประเทศของตนเอง ว่าได้เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ ณจุดแลนด์มาร์ค ยังคึกคักตลอดทั้งวัน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ เข้ามาดูแลความเรียบร้อยป้องกันแก๊งไล่นกที่เข้ามาหรายได้ จากนักท่องเที่ยวเก็บเงินค่าไล่นกให้นักท่องเที่ยวได้ถ่าย แต่พบว่าในช่วงที่เจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ขับรถออกไปทำธุรสบโอกาสเพียงไม่ถึง 30 นาที แก๊งไล่นกพบจำนวน 3 คน แบ่งล๊อคไล่นกกัน มีหญิง 2 คน และชาย 1 คน จะรีบเอาอาหารโปรยให้นกลงมากิน เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการพร้อม ก่อนจะทำการไล่นกให้ได้ถ่ายภาพแบบจุใจ ก็แล้วแต่อุปกรณ์ที่นำมาใช้ เพื่อให้เกิดเสียงนกพิราบได้แตกตื่นโบยบินขึ้นไป ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ แต่มีจุดหนึ่งรับจ้างถ่ายภาพ ถ่ายคลิปให้พร้อม หลังจากเจ้าหน้าที่ขับรถกลับมา สายตาที่ไวมากรีบทำตัวเนียนเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวค่ายเดินหลบออกไป


หลังจากแก๊งไล่นกพิราบ ออกไปแล้วบรรยากาศของฝูงนกที่จะลงมาก็หายไป เพราะไม่มีอาหารมาโปรยเพื่อล้อให้นกลงมากินอาหารบนพื้น แล้วทำเสียงดังให้แกตตื่นนกบินขึ้นไป สังเกตุว่าจะมีด้วยกัน 4 คน จะนั่งหลบอยู่แถวหน้าร้านกาแฟ บริเวณแยกประตูท่าแพ จะค่อยดูว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจขับรถออกไป ก็จะออกมาหารายได้จากการไล่นกทัน ยังพบว่ามีการพูดคุยถึงรายได้ จากนักท่องเที่ยวกัน แล้วนั่งค่อยรอจนเจ้าหน้าที่จะออกไป อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงใหม่ ต้องใช้มาตรการเข้ม ตรวจจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บนข่วงท่าแพ เพื่อดำเนินการเอาผิดมิให้กลับมากระทำซ้ำได้อีก

10 พ.ย. ชวน แอ่ววิถีชุมชน ยลเสน่ห์เมืองเหนือ” ปีที่ 2 จัด ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

เชียงใหม่ 10 พ.ย. ชวน แอ่ววิถีชุมชน ยลเสน่ห์เมืองเหนือ” ปีที่ 2 จัด ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ วันนี้ขับรถรักษ์โลก นำรถไฟฟ้ารณรงค์ประชาสัมพันธ์งาน
ที่ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนายอภิรัตน์ มาศรัตน์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ และนายสมศักดิ์ อินทะชัย เป็นผู้ใหญ่บ้านไร่กองขิง นายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนภาคเหนือ ร่วมกับเครือข่ายชุมชนต่างๆจัดกิจกรรมขับรถรักษ์โลก นำรถไฟฟ้าตั้งขบวนขับรอบเมืองเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์งาน มหกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
“แอ่ววิถีชุมชน ยลเสน่ห์เมืองเหนือ” ปีที่ 2 พ.ศ.2567 จุดเริ่มต้นขับรถรักษ์โลกออกจากลานข่วงประตูท่าแพ ขับรอบคูเมืองเชียงใหม่ ไปสิ้นสุดที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์


นายสมศักดิ์ อินทะชัย นายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนภาคเหนือ ตัวแทนชุมชน กว่าวว่า งาน “แอ่ววิถีชุมชน ยลเสน่ห์เมืองเหนือ” ครั้งที่ 2 ทุกท่านทราบอยู่แล้วว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมแห่งความหวัง ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมากเป็นอันดับต้นๆ และมีความสําคัญโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศ ซึ่ง ‘การท่องเที่ยวโดยชุมชน’ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต การท่องเที่ยวโดยชุมชนได้ถูกคาดหวังว่า เป็นการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และก่อประโยชน์ในด่านธุรกิจให้แก่คนในท้องถิ่นระดับรากฐาน อีกทั้งยังเป็น เครื่องมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมของพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืนอีกด้วย


เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีจํานวนสมาชิกกว่า 40 ชุมชน จาก 20 อําเภอในจังหวัดเชียงใหม่ ทําให้มีความหลากหลายทางด้านศิลปะวัฒนธรรม ท่องถิ่น วิถีชุมชน รวมถึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นมากมาย สอดคล้องกับการที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับ การประกาศจากองค์การ UNESCO ให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและ ศิลปะพื้นบ้าน (craft & folk art) ทางเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้นําเสนอเรื่องราวต่างๆผ่าน กิจกรรมมหกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ “แอ่ววิถีชุมชน ยลเสน่ห์เมืองเหนือ” ซึ่งกําหนดจัดงาน ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. -22.00 น. ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ โดยมีเป็าหมายเพื่อ 1)สร้างการรับรู้ สร้างตัวตน เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ : CBT เชียงใหม่ 2) นําเสนอจุดขาย/เสน่ห์ของชุมชนและอัตลักษณ์ที่โดดเด่น เพื่อเป็นช่องทางการสร้างรายได้ และ 3) ยกระดับอัตลักษณ์ชุมชนสู่ Soft Power 4) เป็นมิตรทั้งชุมชนและสิ่งแวดล้อม กับต้นแบบ Low Carbon Event และ 5) ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ภายในงานประกอบไปด้วยแนวคิดการจัดกิจกรรม “แอ่ววิถีชุมชนยลเสน่ห์เมืองเหนือ” ฮอมฮักCBTเชียงใหม่ นําเสนอจุดคิด จุดขาย ภายใต้แนวคิดเดียวกัน ในบรรยากาศการจําลองวิถีพื้นถิ่น กลิ่นไอ ชวนให้หลงไหล ไปตามหา จึงเป็นที่มาของคําชวนว่า “ป่ะ แอ่วบ้าน”รูปแบบการจัดกิจกรรมตรีมความสนุกสนานรื่นเริงในประเพณียี่เป็ง กิจกรรมช่วงเช้า “ลงข่วง” จัดแจงแต่งดา เฮฮาประสาชุมชนอาสามาช่วย ม่วนตวย กิ๋น ข้าวลํา สอดแทรกด้วยกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ประกอบการและชุมชนต้นทาง กิจกรรมช่วงบ่าย “เปิดข่วง” อร่อยกับกาดมั่ว สอดแทรกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคน CBT และ Highlight การท็อปปิ้ง “ขนมวง” ข่วงไตลื้อเมืองลวงเหนือ

แอ่วบูธ แอ่วบ้าน เลือกสรรสิ่งดี สนุกกับกิจกรรมสาธิต และ DIY ใส่ใจรักษาโลก กับกิจกรรม CSR “คุณปลูก เราดูแล” ชมดนตรี การแสดง และการละเล่น วิถีชุมชน CBT และกิจกรรมช่วงเย็น “ม่วนยามแลง” และมีเรื่องเล่า ชาว CBT (แนะนํา ชุมชนท่องเที่ยว) ชมการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอันหลากหลาย “รําวงย้อนยุคCBT” และ การละเล่นพื้นบ้าน – Highlight พิธีเปิดงานมหกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน “แอ่ววิถีชุมชน ยลเสน่ห์เมืองเหนือ” กิจกรรม เดินแฟชั่นโชว์ชุดชาติพันธุ์ และชุดชนเผ่าประยุกต์ พร้อมผลิตภัณฑ์จากหลากหลายชุมชน โดยนางแบบนายแบบกิตติมศักดิ์ เรียนเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานประวัติศาสตร์ ที่ดําเนินการทุกขั้นตอนโดยชุมชน เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน และมีองค์กรภาคีเครือข่ายเป็นที่ปรึกษา ดังกล่าวสามารถชมได้ในงานมหกรรมการ ท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ “แอ่ววิถีชุมชน ยลเสน่ห์เมืองเหนือ” ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. -22.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ก็ เชิญชวนมาเที่ยวชมกันได้

กองกำลังผาเมือง ปะทะกลุ่มลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้า 300,000 เม็ด อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

 

 

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11.30 น. กองกำลังผาเมือง โดย พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ พันเอก ไมตรี ศรีสันเทียะ เสนาธิการกองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งชี้แจงให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ

กรณี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา 03.50 นาฬิกา กองร้อยทหารม้าที่ 4 จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ บ้านนอแล หมู่ที่ 14 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2-3 ราย สะพายกระเป๋าเป้สัมภาระสีเขียวเดินมาตามเส้นทางดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัยได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการปะทะกัน ประมาณ 5 นาที ผลการปฏิบัติ ฝ่ายเราปลอดภัย สามารถตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 3 เป้ๆละ 100,000 เม็ด รวมทั้งสิ้นจำนวน 300,000 เม็ด ปัจจุบันหน่วยได้นำของกลางส่ง สถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

บรรยากาศ ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ 67 เทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งติดตั้งซุ้มไฟประดับถนนท่าแพ

บรรยากาศ ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2567 เทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งติดตั้งซุ้มไฟประดับถนนท่าแพ เพื่อต้อนรับงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกจุดไฮไลท์ เจ้าหน้าที่ได้ปิดถนน่าแพตั้งแต่แยกวัดอุปคุด มาจนถึงสามแยกหน้าข่วงประตูท่าแพ ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งติดซุ้มโครงเหล็ก ให้แล้เสร็จแล้วตกแต่งประดับไฟ ให้เกิดความสวยงาม ตลอดถนนท่าแพ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวทยและต่างชาติ ที่เดินทางมาข่วงประตูท่าแพ หรือพักอยู่ตามโรงแรมต่างๆ บนถนนท่าแพ ได้ออกมาเดินถ่ายภาพ เซลฟี่ ทั้งไลน์สดบรรยากาศของเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ติดตั้งซุ้มไฟ แต่เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ระมัดะวังเพระอยู่ระหว่างการติดตั้ง ไม่ให้ออกมาเดินลงบนถนนให้เดินบนฟุตบาทเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด มีรถเครนมายกซุ้ม การประกอบ และยกโลโก้ในการติดตั้ง อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้การทำงานอาจจะล้าช้าลงไป


ขณะเดียวกันตามสถานที่ต่าง บริษัท ห้างร้าน วัด โรงแม ที่พัก เริ่มนำโคมไฟ ออกมาประดับตกแต่ง ตามด้านหน้าประตูทางเข้าเพื่อให้เข้ากับเทศกาลยี่เป็งที่ใกล้จะมาถึง ทำให้หลายจุดกลายเป็นจุดถ่ายภาพเซลฟี่ให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะบริเวณโดยรอบลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

หนาวได้วันเดียวเจออากาศแปรปรวนอุตุฯ เหนือเตือนฉบับที่ 1

เช้าวันนี้ ช่วงเวลา เวลา 06.00 น. นายสุกฤษฎิ์ เกิดแสง ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ฉบับที่ 1 (128/2567) เรื่อง คลื่นกระแสลมตะวันตกในช่วงวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นใต้บางพื้นที่บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย โดยยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนบริเวณยอดดอยจะมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่อาจจะเกิดจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ http://www.cmmet.tmd.go.th หรือที่ 053-277919 ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567


จากสภาพอากาศเมื่อวานนี้ที่อุณหภูมิลดลงหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะตามพื้นที่บนดอยสูง กลับมเช้าวันนี้ อุณหภูมิได้อุ่นขึ้น 3 – 4 องศาเซลเซียส ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีกลุ่มเมฆฝนลอยปกคลุมทั่วตัวเมืองอุณหภูมิอยู่ที่ 24 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเช้าวันนี้ วัดได้ 11 องศาเซลเซียส ส่วนกิ่วแม่ปานจุดชมแสงแรกอากาศปิด หมอกลงปกคลุมหนาไม่สามารถมองเห็นแสงแรกยามเช้า ณ จุดเช็คอินยอดฮิต อุณหภูมิวัดได้ 13 องศาเซลเซียส และที่ทำการอุทยานแห่งชาาติดอยอินทนนท์ วัดได้ 18 องศาเซลเซียส สถิตินักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้ 4 พฤศจิกายน 2567 นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 1,028 คน นักท่องเที่ยวต่่างชาติจำนวน 1,613 คน ยอดรวมจำนวน 2,641 คน ยานพาหนะ 538 คัน

เชียงใหม่เปิดแอร์ทั่วเมืองรับนทท.เช้านี้อุณหภูมิลด 2-3 ยอดดอยอินทนนท์ 7 องศา

เชียงใหม่เปิดแอร์ทั่วเมืองรับนักท่องเที่ยวเช้านี้อุณหภูมิลด 2-3 ในเมืองต่ำกว่า 20 ยอดดอยอินทนนท์ 7 องศา เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานเปิดได้ 3 วันยอดสะสมรวมเดือน พฤศจิกายน 2567 = 2,262 คน 657 กลุ่ม

เช้าวันนี้ในตัวเมืองเชียงใหม่และทุกพื้นที่ สัมผัสถึงไอหนาวที่เข้ามาแผ่ปกคลุม อุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อย่างในตัวเมืองเชียงใหม่หลายคนต้องนำเสื้อกันหนาวมาสวมใสเพราะอุณหภูมิลดลงไปต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับตามบนดอยสูง ซึ่งยอดดอยอินทนนท์ ลดฮวบลงมาเหลือ 7 องศาเซลเซียส ส่วนกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิวัดได้ 11 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าเปิดแสงแรกสาดส่องสวยงาม ขณะที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุณหภูมิวัดได้ 13 องศาเซลเซียส สถิติของนักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 2,969 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 1,119 คน ยอดรวมจำนวน 4,088 คน ยานพาหนะจำนวน 1,302 คน ซึ่งเป็นสถิตินักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังจากสภาพอากาศหนาวเย็นทำให้นักท่องเที่ยวพากันเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

สถิติเมื่อวานนี้ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ประจำเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานอำนวยความสะดวกและให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติจำนวน 1,020 คน 282 กลุ่มแบ่งประเภทเป็นชายไทย 369 คน ,หญิงไทย 369 คน ชายต่างชาติ 178 คน และหญิงต่างชาติ 104 คนยอดสะสมรวมเดือน พฤศจิกายน 2567 = 2,262 คน 657 กลุ่ม