ผู้เขียน: sirapress
ตม.เชียงใหม่ รวบ 3 สาว ต่างด้าวเมียนมา ลักลอบเข้ามาทำงาน และทำงานไม่ใบอนุญาต
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เข้มงวดในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือ และผู้ร่วมขบวนการจนถึงที่สุด
ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น วันที่ 4 ก.ย.67 เวลาประมาณ 21.00 น. พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.เชียงใหม่ – แม่โจ้ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ทั้งหมด จำนวน 3 ราย ดังนี้
รายที่ 1 – 2 ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”
รายที่ 3 ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (1,617 วัน) และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”
โดยคนต่างด้าว 2 รายแรกให้การรับสารภาพว่าตนได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ และลักลอบเข้ามาทำงานที่ร้านนี้ได้เป็นระยะเวลา 2 เดือน ส่วนคนต่างด้าวรายที่ 3 รับว่า ตนอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลเป็น แรงงาน 3 สัญชาติ (NON-LA) แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด และได้ลักลอบมาทำงานที่ร้านแห่งนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755
เปิดให้เข้าทำข่าวครั้งแรก หอศิลป์เทา อาจารย์ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ณ บ้านน้ำโจ้ อำเภอสารภี
เปิดให้เข้าทำข่าวครั้งแรก หอศิลป์เทา อาจารย์ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ณ บ้านน้ำโจ้ อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ผลงานที่ใช้เวลานานมาก และมีแรงบันดาลใจปั้นพระบรมรูปหล่อในหลวงรัฐกาลที่ 9 ทรงพระบรมราชาภิเษก ,รัชดาภิเษก และ กาญจนาภิเษก,ขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ซึ่งในช่วงปี 2556 เกิดล้มป่วยเส้นเลือกในสมองแตก เข้ารับการรักษาอยู่ในห้องไอซียู พักรักษาตัวฟื้นขึ้นมาเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้ขอว่าหากรักษาตัวออกไปครบ 32 ประการจะขอใช้ความสามารถปั้นพระบรมรูปของพระองค์ท่าน
ผู้สื่อข่าวได้รับโอกาศ เป็นครั้งแรก จากอาจารย์ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ศิลปินชื่อดังศิลปินงานจิตรกรรมและประติมากรรมแถวหน้าของเมืองไทย เปิดหอศิลป์เทา ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 6 ตำบลดอนแก้ว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากวัดน้ำโจ้ ไปประมาณ 100 เมตร อาจารย์ะงชัยเล่าให้ฟังว่าแนวคิดที่กลับมาสร้างหอศิลป์เทาแห่งนี้ ว่าแต่เดิมรับราชการอยู่กรุงเทพ 26 ปีเศษ ภายหลังได้ร่วมกิจกรรมสำนึกรักบ้านเกิด จึงคิดสะท้อนใจว่าควรกลับมาทำอะไรให้บ้านเกิดของตน ณ บ้านน้ำโจ้ หมู่ที่ 6 ตำบลดอนแก้ว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มาบูรณะวัดน้ำดจ้ และสร้างหอศิลป์เทาขึ้น บ้านเลขที่ 50 แห่งนี้ ได้ก่อสร้างมาปี 2559 หลังจากำบุญกับวัดได้สร้างหอไตร หอกลอง หอพระพุทธบำเพ็ญ และหอระฆังแล้ว จึงกลับมาสร้างหอศิลป์ ได้แล้วเสร็จเตรียมจะเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาชมงานศิลปะ ก็รวบรวมเอาผลงานต่างๆ มาจัดให้ได้ชม แต่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโควิด-19 จึงได้เลื่อนออกไปจนมาถึงปัจจุบันนี้ จึงได้สร้างหอศิลป์ธรรมขึ้นอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แนวคิดสร้างหอศิลป์เทา มาจาก 2 ศิลปินแห่งชาติ ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่วัดขาวร้องขุ่น และอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี มีพิพิธภัณฑ์บ้านดำ อยู่จังหวัดเชียงราย จึงได้นำทั้งสองมารวมกันเป็นหอศิลป์เทาแห่งนี้
ซึ่งหอศิลป์เทา มี 2 ชั้นแสดงผลงานภาพวาดสีสีอะคริลิค สีน้ำเงินเป็นหลัก พร้อมรูปหล่อสำริดเป็นพุทธศิลป์ ผลงานที่ใช้เวลานานมาก และมีแรงบันดาลใจปั้นพระบรมรูปหล่อในหลวงรัฐกาลที่ 9 ทรงพระบรมราชาภิเษก ,รัชดาภิเษก และ กาญจนาภิเษก,ขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ซึ่งในช่วงปี 2556 เกิดล้มป่วยเส้นเลือกในสมองแตก เข้ารับการรักษาอยู่ในห้องไอซียู พักรักษาตัวฟื้นขึ้นมาเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้ขอว่าหากรักษาตัวออกไปครบ 32 ประการจะขอใช้ความสามารถปั้นพระบรมรูปของพระองค์ท่าน หลังจากหายปกติจึงได้เริ่มปั้นขึ้น แต่การปั้นใช้เวลานับปีตั้งแต่ปี 2557 ,2558 และ2559 ที่ยากมาก ทรงพระบรมราชาภิเษก ที่ต้องเก็บรายละเอียดเสมือนจริงทุกอย่าง ต้องได้เห็นของจริงแต่ได้มากจากภาพ ค่อยเก็บรายละเอียดจนแล้วเสร็จ ตามที่ได้ปราวนาตนเอาไว้ ออกมาแล้วไม่ทุพพลภาพ ได้ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่ได้เข้ามาเยี่ยมชม
อย่างไรก็ตามหลังจากหอศิลป์ธรรมได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเปิดให้สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมฟรี ใช้เป็นแนวทางการศึกษาชมศิลปะ พุทธศิลป์ แนวคิดต่างๆ แต่ช่วงนี้ก็มีผู้สนใจจติดต่อเข้ามาขอชมเป็นหมู่คณะ นักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงชาวต่างชาติให้ควาามสนใจเดินทางมาขอเยี่ยมต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการต้องแจ้งเข้ามาก่อน จะเปิดให้เข้าชมได้ ไม่เก็บค่าเข้าชมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของท้องถิ่น เรียนรู้ด้านศิลปะเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อีกด้วย ติดต่อสอบถามเข้าชมได้ทาง เพจ หอศิลป์เทา
พาไปชมรูปหล่อตัวกามา 1 เดียวในภาคเหนือ ผสมด้วยหนุษย์ สัตว์ และเทพหน้าวัดน้ำโจ้ อำเภอสารภี
พาไปชมรูปหล่อตัวกามา 1 เดียวในภาคเหนือ ผสมด้วยหนุษย์ สัตว์ และเทพหน้าวัดน้ำโจ้ อำเภอสารภี หลายคนสงสัยคืออะไร เจ้าอาวาสให้เป็นปริศนาทางธรรม ยิ่งสงสัยจะได้สนทนาธรรม รับฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า ภายในวัดได้รับการบูรณะสร้างปฎิมากรรมต่างๆ จากศิลปินดังด้านงานจิตรกรรมและประติมากรรมแถวหน้าของเมืองไทย อาจารย์ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ
ผู้สื่อข่าวพาไปที่วัดน้ำโจ้ หมู่ที่ 6 ตำบลดอนแก้ว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลายคนพากนสงสัยเมื่อเห็นปฎิมากรรมตั้งหน้าวัด กึ่งคน กึ่งสัตว์ กึ่งเทพ ร่างกายกำยำ หน้าต่อหล่อ ยังมีตัวเมียที่หน้าดาสวย มีขาเป็นนก มีนมหลายเต้า ยังมีศิลปะอันสวยงาม จากปูนปั้นลงลวยลายล้านนา พาไปกราบไหว้พระแก้วมหาจักรพรรดิ มหาเศรษฐีทันใจ ซึ่งพระปลัดอดุลย์ สุรปัญโญ หรือพระอาจาย์หวาน เป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำโจ้ ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 10 ปี ได้มีโยมอาจารย์ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ศิลปินชื่อดังศิลปินงานจิตรกรรมและประติมากรรมแถวหน้าของเมืองไทย เป็นชาวบ้านน้ำโจ้แห่งนี้ เข้ามบูรณะวัดใหม่ทั้งหอไตร หอระฆัง ซุ้มประตูวัด ศาลาปฎิบติธรรมหลังใหม่เป็นสีขาว มีลวดลายปูนปั้นแบบล้าน ทรงล้านนาโบราณ ภายในวัดอย่างสวยงาม ซึ่งวัดแห่งนี้ มีอายุเกือบ 200 ปี มีการบูรณะครั้งที่เมื่อปี 2400 วิหารหลังเก่า พร้อมพระพุทธรูปองค์ประธาน ทรงปางมารวิชัยและมีพระแก้วมหาจักรพรรดิ มหาเศรษฐีทันใจ ซึ่งมีญาติดยมได้สร้างนำมาถวายให้กับวัด ที่สำคัญใครที่ด้เดินผ่านประตูชัยศรีสุขประเสริฐ มีพญานาคสีขาว 2 ตัว และบ่อน้ำพญานาคอยู่ด้านหน้าวัด จะมองเห็นตัวกามา 1 ตัวด้านข้างวัด ที่มีความโดดเด่น สวยงามแปลกตา และตัวกามาเล็กเกาะตามกำแพงของวัด ซึ่งกามาตัวผู้ จะมีลักษณะท่อนล่างเป็นสัตว์คลายเสือ มีร่างกายเป็นมนุษย์ หุ่นกำยำ ใบหน้าหล่อ สวมชฎาคล้ายเทพ มีปีก และตัวเมียเล็ก สีเขียว ใบหน้าสวยงาม มีขนาดเล็กมีน้ำหลายเต้า มีขาเหมือนนกเหยียว มีปีเหมือนนกเช่นกัน ซึ่งเป็นกึ่งสัตว์ กึ่งคน กึ่งเทพ คือตัวกิเลสตัณหา หากใครมาสอบถามสงสัยก็จะทำให้รู้ว่าคืออะไร เพราะคนมีกิเลสตัณหาเก่งกาจอยู่แต่ภายนอก ไม่รูู้ถึงเรื่องธรรม จิตใจที่เต็มไปด้วยกิเลส โออวด ตนเก่ง เหมือนบางคนหน้าตาดีแต่จิตใจแยเลวร้ายมาก เมื่อได้ฟังเทศนาธรรมก็จะทำให้เข้าใจ รู้ถึงสัจจะธรรม ความจริงแท้ของการบรรลุสัจธรรม เข้าถึงสัจธรรม แท้จริง เป็นเพียงตัวเดียวในภาคเหนือ ที่อาจารย์ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ในประเทศไทยปั้นไว้เพียง 3 ตัวเท่านั้น
นอกจากนี้วัดได้มีต้นพระศรีมหาโพธิ์ จาก พุทธคยา ประเทศอินเดีย นำมาปลูกไว้ด้านข้างของวัด บรรยากาศรอบวัดแห่งนี้มีถนนสายงาม มีต้นตาลขึ้นเป็นแถวสวยงาม สำหรับใครที่ชอถ่ายภาพ ชมบรรยากาศที่สวยงาม เหมือนได้ย้อนยุคไปเมื่อ 20-30 ปี ที่จะต้นตาล ต้นไม้ใหญ่ ขึ้นริมถนน แลวมาแวะเที่ยวชมศิลปร่วมสมัยที่ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินดังด้านงานจิตรกรรมและประติมากรรมแถวหน้าของเมืองไทย มาบูรณะสร้างขึ้นไปพร้อมกับขอเก่าโบราณล้านนา แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดของการชมศิลป พุทธศิลป์
คุณตาอายุจะ 72 ปี ครั้งแรกในชีวิตที่มีอาจารย์ นศ. มาช่วยซ่อมให้ที่ผ่านมาตลอดชีวิตไม่เคยมี
คุณตาอายุจะ 72 ปี ครั้งแรกในชีวิตที่มีอาจารย์ นศ. มาช่วยซ่อมให้ที่ผ่านมาตลอดชีวิตไม่เคยมีสุดแสนดีใจเป็นอย่างมาก วันที่ 2 คณะอาจารย์ และนักศึกษา วิทยาลัยโปลิฯ ยังเข้าไปช่วยซ่อมรถและเครื่องใช้ไฟฟ้าชาวบ้าน บ้านท้องฝาย หมู่ 2 ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเกิดน้ำป่าไหลหลากเอาเข้าร่วมบ้านเรือน พร้อมจัดซื้อที่นอนข้าวของเครื่องใช้มอบให้บ้านที่เสียหายทั้งหลัง
เป็นวันที่ 2 ของ คณะอาจารย์ และนักศึกษา ชั้นปวช. และปวส. สาขาไฟฟา และช่างยนต์ จากวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา นำโดยอาจารย์ประสิทธิ์ ชูดวง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษา จำนวนกว่า 50 คน ได้เข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซม เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้กับชาวบ้าน บ้านท้องฝาย หมู่ที่ 2 ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศาลาอเนกประสงค์ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในวันนี้ยังได้จัดซื้อที่นอน เครื่องใช้ส่วนตัว ข้าวสารอาหารแห้ง มอบให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งหลัง อยู่ติดกับลำน้ำแม่ริม
ด้านคุณตาสสมศักดิ์ กำแก้ว อายุ 71 ปี เข้า 72 ปี บ้านเลขที่ 27 /1 บ้านท้องฝาย หมู่ที่ 2 ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวดีใจมากเพราะตลอดอายุของตนที่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมาตลอดชีวิต เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคณะอาจารย์และนักศึกษา สาขาช่างเข้ามาช่วยเหลือ ช่วยซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ใช้ดูตามบ้านเรือนของอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้า ที่อาจจะได้รับความเสียหาย และซ่อมรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ให้กับชาวบ้านฟรี ดีจมากๆ จนบอกไม่ถูก ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากเพราะชาวบ้านก็ไม่ได้มีเงินอะไรมากมาย จะนำไปซ่อมก็ลำบาก ดีมากที่คณะอาจารยืและนักศึกษามาซ่อมให้ถึงที่บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อยากให้มีโครงการดีๆ แบบนี้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านแบบนี้อีก
ตม.เชียงใหม่ จับแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ OVERSTAY 562 วัน
ตม.เชียงใหม่ จับแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ OVERSTAY 562 วัน
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ดำเนินการสืบสวน จับกุมคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay)
ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น
วันที่ 28 ส.ค.67 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.สนามบิน ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (562 วัน)”
โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลเป็น แรงงาน 3 สัญชาติ (NON-LA) ได้รับอนุญาตถึงวันที่ 13 ก.พ.66 แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด และหลบหนีกบดานในพื้นที่ภาคเหนือ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755
อว. จัดเวที Vision Talk สร้างแรงบันดาลใจ น.ศ.เชียงใหม่ อายุน้อยร้อยล้านในวัยเรียน
จากความสำเร็จในการจัดงาน Vision Talk ทั้ง3ครั้งที่ผ่านมา นักศึกษาให้การตอบรับดีมาก เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม ท่านศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเวทีทอล์คครั้งที่ 4 ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาภาคเหนือ
ที่อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสถานีข่าว Top News นำโดย คุณพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ที่ปรึกษาด้านพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยมี ผศ.ดร.ชนม์เจริญ แสวงรัตน์ ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยผู้ประกาศข่าวท็อปนิวส์ คุณธีระ ธัญไพบูลย์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน , คุณศิรวิฑย์ ชัยเกษม และคุณพรสวรรค์ จารุพันธ์ เข้าร่วมงานสัมมนาเชิงการเรียนรู้ Vision Talk 2024 ครั้งที่4 “สร้างโอกาสการเรียนรู้ สู่ความสำเร็จ” เปิดเวทีสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในภาคเหนือ เข้าร่วมกว่า 400 คน บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักตั้งแต่ทางเข้างาน มีจุดถ่ายรูป Photo Booth ให้ได้ร่วมสนุกแปลงโฉมหน้าตัวเองด้วยนวัตกรรม AI และด้านในห้องประชุมมีการแสดงดนตรีสุดครื้นเครง จากนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วง Full Sun และวงเพอะ ที่เป็นวงดนตรีชาวเหนือที่กำลังฮิตบนโลกออนไลน์ ได้มาร่วมสร้าง
บรรยากาศภายในงาน นอกจากนี้เวทีนี้ได้รับเกียรติพิเศษจาก CEO แบรนด์ไทย 2 ท่าน ท่านแรกคือ คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ,ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิชชั่น ทู เดอะ มูน มีเดีย จำกัด เป็นผู้ที่รีแบรนด์ศรีจันทร์ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง การปลุกปั้นแบรนด์ศรีจันทร์ ให้กลายเป็นเครื่องสำอางค์คนไทยที่ดังไกลระดับโลก คุณรวิศ กล่าวว่า บทเรียนจากความเชื่อเดิมที่ว่า ‘ถ้าสินค้าดี ลูกค้าก็ต้องซื้อ’ แต่หลังจากที่ลองผิดลองถูก ทำให้ทราบว่าเราควรต้องคุยกับลูกค้าเยอะๆ อย่าคิดเองว่าลูกค้าจะชอบอะไร ต้องทำการบ้านเยอะๆ อย่านั่งประชุมกันเองแล้วคิดว่าสินค้าน่าจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า แบบนี้เจ๊งแน่นอน ปัจจุบันจึงอาศัยทฤษฎี Circuit Breaker เปรียบเสมือนค่าที่เราตั้งไว้ที่ทำให้เราขี้กลัว เราควรจะต้องฝึกให้ตัวเองขี้กลัวน้อยลง กล้าทำอะไรใหม่ๆ ฝึกทำอะไรก็ได้ที่ไม่สบายกายสบายใจ ฝึกเผื่อวันหนี่งเมื่อต้องตัดสินใจกับเหตุการณ์ใหญ่ๆ จะทำให้คุณไม่กลัวและพร้อมกระโดดข้ามเหวนั้นไป
ขณะที่ คุณเก่ง ธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้ง และเจ้าของ บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด พูดในหัวข้อเรียนรู้อยู่เป็นเห็นโอกาส ฉบับ CEO ที่แชร์มุมมองการใช้ชีวิต รวมถึงแชร์ประสบการณ์การทำธุรกิจ ว่าทำอย่างไรให้สินค้าติดตลาด และโกอินเตอร์ได้ คุณธีระพงศ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะทำธุรกิจ หรือทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้ารู้จักการออม เหมือนออมเงินในกระปุก ต้องมีวินัยและอดทน เหมือนกับหงส์ไทยที่อดทนรอ รอผลสำเร็จของการออม ในเส้นทางที่เรียนรู้แบบไม่รู้ จากการทำธุรกิจรอบที่1 ไม่สำเร็จ เพราะไม่มีประสบการณ์ในความคิดและวางแผน , พอทำรอบที่2 เริ่มเห็นผล แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาตีราคาในตลาด อีกทั้งยังไม่ถึงแก่นแท้ของคุณภาพ สุดท้ายกลับมาทำรอบที่3 จึงพบกับจิกซอว์สำคัญ คือ คุณภาพ ที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อ เราจึงผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และพัฒนาต่ออย่างไม่หยุดยั้ง
สำหรับกิจกรรม Vision Talk ครั้งที่4 ต้องขอขอบคุณ “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” ที่สร้างโอกาสดีๆในการเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าอนาคตของชาติต่อไป
เจ้าของร้านสเต็กบุฟเฟ่ต์วอนรัฐบาลใหม่ ช่วยลดภาษี ชะลอขึ้นค่าแรง ลดส่งประกันสังคม
ผู้ประกอบการสเต็กบุฟเฟ่ต์วอนรัฐบาลใหม่ ช่วยลดภาษี ชะลอขึ้นค่าแรง ลดส่งประกันสังคม หวั่นน้ำท่วมพืชผัก วัตถุดิบต่างๆ จะขยับราคาขึ้น เผยไม่ขอปรับราคาแบกรับต้นทุนที่สูงเอาไว ถึงวัตถุดิบต่างๆ เครื่องปรุงพาเหรดขึ้นราคาไปแล้ว โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ต่างๆ ปรับขึ้นลงกระทบไม่ใช้น้อย หากปรับขึ้นไม่สามารถปรับลงมาได้ ไม่อยากเห็นธุรกิจล้มต่อเนื่องรัฐบาลใหม่อย่าช้า
วันนี้ผู้สื่อข่าวพาไปร้านสเต็กบุฟเฟ่ต์ ป้าเหมย ย่านสันติธรรม ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ยังยืนราคาสเต็กบุฟเฟ่ต์ ราคา 229 มีให้ลูกค้าได้รับประทานเมนูสเต็ก ของทอด สลัด ของกินเล่น น้ำดื่ม ไอศครีม มากกว่า 50 -60 ชนิด นายวรัญญู แซ่ลี้ เจ้าของร้านกล่าวว่าขายในราคานี้มานานแล้ว ตั้งแต่หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ผลตอบรับเป็นอย่างดี แต่มาช่วงต้นปีปัจจัยทางเศรษฐกิจส่งผลให้วัตถุดิเครื่องปรุงต่างๆ ทะยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่บางช่วงราคาสูงมาก ยอมรับว่าเกิดผลกระทบต่อต้นทุนอย่างแน่นอน แต่ก็เข้าใจ คงขายราคาเดิมให้กับลูกค้า แบกรับต้นทุนไว้ก่อน ก็มีการปรับเปลี่ยนบางเพื่อให้เกิดความสมดุล เพื่อไม่ให้ขาดทุนมาก ร้านจะเปิดตั้งแต่12.00 – 22.00 น. ในแต่ละช่วงวันจะมีลูกค้าเข้ามามากน้อยในแตกต่างกัน แต่ละช่วงเวลาไม่เท่ากันมากๆ เที่ยง และช่วงเย็นค่ำๆ ทางร้านจะปรุงอาหารออกมาในตามช่วงเวลาของลูกค้า จะไม่ปรุงไว้ก่อนเพราะจะขาดรสชาติ ความสดใหม่จะหมดไป ทั้งเป็นการลดต้นทุนเพราะปรุงไว้แล้ว ไม่มีลูกค้านำมาอุ่นจะทำให้เสียรสชาติเมื่อลูกค้ารับประทานข้าไปแล้ว เพราะที่นี่เน้นปรุสดใหม่ เหมือนได้รับประทานอยู่ที่บ้าน ที่สำคัญของจะไม่ปรุงทิ้งปรุงขวางไป จะทำให้ขาดทุนเพราะของต้องทิ้ง
อย่างไรก็ตามฝากถึงรัฐบาลใหม่ ขอช่วยลดภาษี เป็นอีกหนึ่งของต้นทุนขึ้นสูง ภาษีโรงเรือนที่ปรับขึ้น ต้นทุนการเช่าก้ตองปรับตามเพราะเจ้าของจ่ายมากขึ้นก็ต้องมาเก็บค่าเช่าเพิ่มขึ้น ชะลอการปรับขึ้นค่าแรง หากค่าแรงเพิ่มต้นทุนเพิ่ม แต่รายรับไม่เพิ่มตามก็จะกระทบหนักมาก ขณะเดียวกันช่วยลดค่าส่งประกันสังคมก็จะช่วยลดต้นทุนในระยะสั้นลงได้อีกเช่นกัน ตอนนี้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ แหล่งผลิตพืชผักทางการเกษตร ฝนตกหนักต่อเนื่องผลกระทบเกิดขึ้นแน่นอนราคาที่จะต้องปรับขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับเป็นปัจจัยของตลาด ขอให้เป็นระยะสั้นๆ หากระยะยาวผลกระทบเกิดขึ้นอย่างแน่นอน รัฐบาลใหม่ต้องหามาตรการเข้ามาช่วยเหลือให้เร็วขึ้น ต่อผู้ประกอบการSME และร้านอาหาร ที่ได้รับผลกระทบมาต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พบว่าผู้ประกอบในด้านต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ ทะยอยปิด หยุดประกอบกิจการไปจำนวนมากขึ้น เพราะต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่รายรับลดลงการใช้บริการต่างๆ ไม่ค่อยมี แม้กระทั้งตามตลาดต่างๆ ผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อลดลง ซื้อเพราะซื้อจำกัดขึ้น จากนี้จะทำให้นักลงทุนเดิมไม่กล้าจะควักเงินออกมาเพื่อรักษาธุรกิจ และนักลงทุนใหม่ก็ไม่กล้าจะเข้ามา ภาครัฐต้องเร่งกระตุ้น หามาตรการเข้ามาให้เร็ว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีรายได้จากภาคบริการด้านการท่องเที่ยวถึงร้อยละ 70
ตม.เชียงใหม่ เข้มออกตรวจจับกุมแรงงานต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน OVERSTAY 557 วัน
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ตรวจเข้มพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และสืบสวนติดตามจับกุมอาชญากรอย่างเต็มรูปแบบ
ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้งผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 23 ส.ค.67 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีม ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบบริเวณ ถ.เมืองสมุทร ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (557 วัน) และ ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่า ตนได้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรด้วยเหตุผลเป็นแรงงาน 3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว และกัมพูชา) แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด และได้ลักลอบมาทำงานรับจ้าง จึงถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755
เลขาฯ รมว.แรงงาน มอบโล่ประกาศเกียรติคุณสถานประกอบกิจการ 27 แห่ง ภาคเหนือ Zero Accident Campaign 2024
เลขาฯ รมว.แรงงาน มอบโล่ประกาศเกียรติคุณสถานประกอบกิจการ 27 แห่ง ภาคเหนือ ที่ผ่านเกณฑ์พิจารณากิจกรรมการรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ (Zero Accident Campaign 2024) เพื่อส่งเสริมสถานประกอบการภาคเหนือ มุ่งอุบัติเหตุเป็นศูนย์ พร้อมดูแลแรงงานทุกชาติด้วยมาตรฐานเท่าเทียม จากรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจากการทำงานในจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 20 สิงหาคม 2567 พบว่ามีผู้เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และจำเป็นต้องหยุดงานรวมทั้งสิ้น 1,014 ราย ทำให้ต้องมีการจ่ายเงินทดแทนสูงถึง 18.7 ล้านบาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มุ่งเดินนโยบาย ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ มอบ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดงานสัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัย และ อาชีวอนามัยในส่วนภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2567 โดยมีนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ณ ห้องเชียงใหม่ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่
นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วันนี้ได้มาเป็นประธาน และ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์พิจารณากิจกรรมการรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ (Zero Accident Campaign 2024) ภาคเหนือ จำนวน 27 รางวัล เพื่อเป็นเกียรติให้กับสถานประกอบการที่เห็นถึงความสำคัญในการดูแลแรงงานทุกคน และแรงงานข้ามชาติอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานสากล กระทรวงแรงงาน มุ่งเดินหน้า ทำงานร่วมมือกับสถานประกอบการลดปัญหาในการทำงานในทุกมิติ ลดความรุนแรง กดขี่ข่มเหงต่อลูกจ้าง พร้อมส่งเสริมด้านความปลอดภัยให้เป็นศูนย์ ทั้งสถานประกอบการขนาดใหญ่ หรือ เอสเอ็มอี จากรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจากการทำงานในจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 20 สิงหาคม 2567 พบว่ามีผู้เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และจำเป็นต้องหยุดงานรวมทั้งสิ้น 1,014 ราย ทำให้ต้องมีการจ่ายเงินทดแทนสูงถึง 18.7 ล้านบาท แม้จำนวนนี้จะลดลงเมื่อเทียบกับสองปีที่ผ่านมา แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุให้ไม่เกิน 4% ต่อปี เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์ ซึ่งจะช่วยนำเงินทดแทนที่เสียไปมาปรับใช้ในด้านอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ต่อทั้งลูกจ้าง ผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการดูแลแรงงานทุกกลุ่มว่า “เราต้องมั่นใจว่าแรงงานทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีและปลอดภัยในสถานที่ทำงาน” สสปท. มีความตั้งใจจริงในการดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างเข้มงวด เพื่อให้แรงงานทุกคนมีความปลอดภัยทั้งด้านสุขภาพกายและใจ สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและเป็นธรรมแก่ทุกคน
ผอ.สสปท. ยังได้เน้นย้ำว่า สสปท. มุ่งมั่นที่จะลดการประสบอันตรายในแรงงานข้ามชาติ โดยการสร้างการสื่อสารที่ถูกต้องและครอบคลุมไปยังกลุ่มแรงงานนั้นๆ หากเราไม่เริ่มส่งเสริมและขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม สถิติการประสบอันตรายก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ