ตม.เชียงใหม่ รวบแรงงานต่างด้าว 3 ราย แอบทำงานก่อสร้างไม่มีใบอนุญาตทำงาน

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ตรวจเข้มพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และสืบสวนติดตามจับกุมอาชญากรอย่างเต็มรูปแบบ

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 20 ส.ค.67 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีม ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างในพื้นที่ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 2 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” และคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทำงานของนายจ้าง และลักษณะงานที่ทำภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่เข้าทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยคนต่างด้าวทั้ง 3 ราย รับสารภาพว่า ได้ลักลอบมาทำงานที่ไซด์งานก่อสร้างแห่งนี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนกว่า ได้รับค่าจ้าง 400 บาทต่อวัน โดยยังไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้เสียก่อน

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ฝากถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊ง เร่งแก้ไขปัญหา เซาะกร่อน บ่อนทําลาย ธุรกิจ อาชีพ และเศรษฐกิจของไทย

 

เชียงใหม่ ฝากถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊ง เร่งแก้ไขปัญหา เซาะกร่อน บ่อนทําลาย ธุรกิจ อาชีพ และเศรษฐกิจของไทย จากปลาหมอคางดำ แอพพลิเคชั่น และการเข้าประกอบธุรกิจของต่างชาติ จากการดั้มราคาจนกระทบต่อธุรกิจ ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยในพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว

นายพรชัย จิตรนวเสถียร นักธุรกิจภาคบริการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ช่วยเข้มาแก้ไขปัญหาเร่งด่วนก่อนเพราะเริ่มเข้ามาเซาะกร่อน บ่อนทําลาย ระบบเศรษฐกิจของไทย จากการเข้ามาประกอบอาชีพ ธุรกิจของต่างชาติแล้วดั้มราคาจนทำให้ผู้ประกอบการของไทยรายเล็กรายย่อย SME เกิดผลกระทบจากผ่านแอพพลิเคชั่น การเข้ามาตั้งธุรกิจในพื้นเมืองหัวเมืองใหญ่ เมืองด้านการท่องเที่ยวผ่านนอมินี ที่สำคัญปลาหมอคางดำ เป็นปลาเอเลี่ยนสปีชีส์ ทำลายระบบนิเวศ ที่ตอนนี้รุกลามไปจะส่งผลให้สัตว์น้ำทางทะเลของไทยค่อยหายไป อาชีพชาวประมงที่เคยมีจะต้องหยุดชงักลงไป ปัญหาที่ตามคนไทยจะได้รับประทานอาหารทะเลที่แพงขึ้น ไม่มีแรงงานไม่มีการจ้างงานภาคการประมง รายไาวประมตามชายฝั่งจะไม่มีก่อให้เกิดผลกระทบที่กว้างขึ้น มาตรการที่เข้มของรัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อให้การแข่งขันที่เท่าเทียมกันของธุรกิจ

 

นายกรัฐมนตรีทานใหม่ต้องนำเป็นนโยบายการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพราะปล่อยทิ้งไว้กระทบต่อคนไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจที่ปัจจุบันก้ว่าย้ำแย่อยู่แล้ว หาเจอสถานการร์นี้เข้าไปตอกย้ำอีก ที่สำคัญต้องออกมาตรการเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจในระบบรากหญ้าขึ้นมา ให้มีการใช้จ่ายเกิดการหมุนเวียนของเงินให้มาก และทำให้เกิดความเชื่อมั่นเร็วที่สุด

ตม.เชียงใหม่ สืบตม.5 และเทศกิจ ลุยจับต่างด้าวหลบหนีเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและ ปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด เข้มงวดในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือ และผู้ร่วมขบวนการจนถึงที่สุด

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 15 ส.ค.67 เวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำกำลัง จนท.สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ เทศกิจ เทศบาลเมืองเชียงใหม่ และกก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.เมืองสมุทร ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบเดินทางจากประเทศเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาประเทศไทยเพื่อมาหางานทำ จึงได้เดินทางต่อมายังจังหวัดเชียงใหม่ มาถูกจับกุมตม.จว.เชียงใหม่ ได้เสียก่อน

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ จับต่างด้าวลักลอบเข้าเชียงใหม่ รวม 14 ราย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและ ปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด เข้มงวดในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือ และผู้ร่วมขบวนการจนถึงที่สุด

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 9 ส.ค.67 เวลาประมาณ 15.00 น. จนท.สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมกลุ่มคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 14 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยผู้ถูกจับทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพนักงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมา และต้องการมาศึกษาดูงานที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่สามารถทำหนังสือเดินทางได้ทัน จึงเดินทางเข้าประเทศไทยโดยใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว (Boarder Pass) ซึ่งพื้นที่ที่ผู้ถือบัตรผ่านแดน หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราว เดินทางเข้า – ออก และพำนักอยู่ได้ ได้แก่ อำเภอแม่สาย อำเภอแม่จัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย แต่กลุ่มคนต่างด้าวดังกล่าวได้ลักลอบเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ จึงถูก ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ ออกตรวจบูรณาการร่วม ตร.ทท.จับกุมชายชาวนอร์เวย์ อยู่เกินวีซ่า 30 วัน

 


ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ตม.จว.เชียงใหม่ ดำเนินการสืบสวน จับกุมคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay)


ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น เมื่อวันที่ 7 ส.ค.67 ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.ตรัสวงศ์ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาตินอร์เวย์ จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (39 วัน)” โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยได้รับยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว 30 วัน (ผ.30) แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด


ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ ตามรวบหนุ่มสิงคโปร์ กลางห้างดังหนีหมายจับซุกเชียงใหม่


ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและ ปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด เข้มงวดในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือ และผู้ร่วมขบวนการจนถึงที่สุด


ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น วันที่ 6 ส.ค.67 เวลาประมาณ 13.00 น. จนท.สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ได้สืบทราบว่ามีคนต่างด้าว สัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในความผิด “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้หลบหนีหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ มากบดานอยู่ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ จึงได้สืบสวนหาข่าวเพิ่มเติม และวางแผนติดตาม จนพบตัว และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เด็กนักเรียนอุบาลเชียงใหม่ร่วมปลูกต้นไม้สร้างจิตสำนักในการรักษ์ป่าลดปัญหาโลกร้อน

นำเด็กนักเรียนอุบาลเชียงใหม่ร่วมปลูกต้นไม้สร้างจิตสำนักในการรักษ์ป่าลดปัญหาโลกร้อน ทำโครงการ “รวมใจปลูกป่า เพื่อแผ่นดิน” ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10

นายปิยะพงษ์ ประพันธ์วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานปลูกต้นไม้ทำโครงการ รวมใจปลูกป่า เพื่อแผ่นดิน ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 โดยสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 33 กรมทหารราบที่ 7 กองพันทหารราบที่ 1กรมทหารราบที่ 7 พร้อมด้วยนักเรียน ผู้ปกครอง และครูโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ รวมทั้งบุคคลทั่วไป ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียวร่วมกันในการอนุรักษ์พื้นป่าดอยสุเทพ ซึ่ง กิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนการจัดเตรียมพื้นที่ปลูกต้นไม้ จากสำนักงานโครงการจัดหมู่บ้านตัวอย่างห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

เนื่องจากปัจจุบันป่าไม้ตลอดถึงระบบนิเวศน์ได้ถูกทำลายเป็นอันมากเนื่องมาจากการตัดไม้ทำลายป่า การถางป่า และการเผาป่า อันเนื่องมาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของประชาชนหรือจากภัยธรรมชาติ ทำให้ป่าขาดความสมดุลทางธรรมชาติ ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน แหล่งกำเนิดต้นน้ำถูกทำลาย สัตว์ป่าบางชนิดที่เคยมีต้องสูญพันธุ์ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงจำเป็นต้องทำการอนุรักษ์ป่า เพื่อให้ป่าไม้และระบบนิเวศน์กลับมาสู่สภาพปกติ

ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือร่วมใจและความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของ นักเรียน ผู้ปกครอง และครูโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ และชุมชนใกล้เคียง ในการดำเนินโครงการ และทำกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์ร่วมกัน ที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียนและโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ อีกทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้ร่วมรักษาสมดุลระบบนิเวศน์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ป่าและรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป

นี่หน้าหนาวหรือหน้าฝนตก บนดอยสุเทพเกิดหมอกลงอุณหภูมิลดต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส

 

นี่หน้าหนาวหรือหน้าฝนตก บนดอยสุเทพเกิดหมอกลงอุณหภูมิลดต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส หลังจากในจังหวัดเชียงใหม่ได้เกิดฝนตกลงนื่องส่งผลให้สภาพอากาศกลับมาหนาวเย็นโดยเฉพาะตามพื้นที่บนดอยสูงต่างๆ ขณะที่ในตัวเมืองเชียงใหม่เช้าๆ ต้องสวมเสื้อกันหนาวแบบบางๆ เพราะเหลือ 22-23 องศาเซลเซียส ยารักษาโรคขายดีขึ้นโดยเฉพาะยาแก้ไข แก้ไอ แก้ปวดเมื่อยจากไข้หวัด เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ฝน อากาศหนาวเย็น

 

วันนี้ผู้สื่อข่าวพาไป ชมบรรยากาศ ของหมอกลงปกคลุม เหมือนอยู่ในห้วงฤดูหนาว อุณหภูมิลดฮวบลงมาเหลือ 18-19 องศาเซลเซียส ที่บนดอยสุเทพ บริเวณด้านหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดทั้งวันมีฝนตกลงมาหนัก เบา โปรยปรายสลับกันตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ความชื้นที่สะสมไอความเย็นแผ่ปกคลุมกลายเป้นหมอกลงปกคลุม ลอยปกคลุมเหนือหมู่บ้าน บริเวณลาดจอดรถของวัด ซึ่งเปนเหมือนแอ่งกระทะ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบ รวมไปถึงด้านบนวัดพระธาตุดอยสุเทพ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาพากันตืนตาตื่นใจเพราะมีหมอกลงอากาศหนาว และฝนตกอยู่ในห้วงเวลาเดียวกัน ทำเอาหลายคนต้องหาวิธีป้องกันอากาศหนาวหาซื้อกันฝนแบบบางๆ มาป้องกันไอหนาวเพราะไม่คาดคิดว่าอุณหภูมิจะลงฮวบลงมาต่ำทำให้หลายคนที่ยังปรับสภาพไม่ทันกับความหนาวเย็น

ขณะเดียวกันหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนดอยสูง แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติอุณหภูมิก็ลดลงมาจากความชื้น ของฝนที่ตกลงมาสะสมติดกันหลายวัน ส่วนตัวเมืองช่วงเช้าอากาศก็เริ่มเย็นๆ ส่งผลให้บรรดาผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ต้องนำเสื้อกันหนาวแบบบางมาสวมใส่ให้ร่างกายอบอุ่น เช่นเดียวกับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ ทั้งเสื้อกันฝนที่ต้องเตรียมไว้ ยังมีเสื้อกันหนาว เสื้อแจ็คเก็ตแบบบางๆไว้ สวมใส่ขณะขับขี่ เพราะอากาสที่เย็นในช่วงนี้ จากฝนที่กตกหนักทำให้เกิดล้มป่วยยารักษาโรคขายดีขึ้นโดยเฉพาะยาแก้ไข แก้ไอ แก้ปวดเมื่อยจากไข้หวัด เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ฝน อากาศหนาวเย็น

ไม่โกง ไม่มีบัตรเสีย บัตรเขย่งครั้งแรกของนศ. วิทยาลัยโปลิ กว่า 4 พันคนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

ไม่โกง ไม่มีบัตรเสีย บัตรเขย่งครั้งแรกของนศ. วิทยาลัยโปลิ กว่า 4 พันคน อายุ 15-19 ปีได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งจากเครื่องกดลงคะแนน ชื่นชอบเครื่องกดเพราะสะดวกรวดเร็ว มีความเป็นธรรมโปร่งใส สามารถรู้ผลได้ทันที ที่สำคัญไม่มีการโกงเกิดขึ้นหากนำมาใช้เลือกตั้งจริง จะบริสุทธิ์ยุติธรรม สร้างให้คนไม่โกงเกิดขึ้น ไม่มีบัตรเสีย บัตรเขย่ง หลายคนได้มีสิทธิ์เลือกตั้งจริงเป็นครั้งแรกระดับจังหวัด อบจ.

ผู้สื่อข่าวพาไป ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ ถนนสุขเกษม ตำบลป่าตัน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดการลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ประจำปีการศึกษา 2568 มีนักศึกษาจำนวนกว่า 4 พันคน อายุตั้งแต่ 15 – 19 ปี ได้มีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตย ของนักศึกษาวิทยาลัยโปลิเทคนิคลานนาฯ ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้อาจารย์ศิรภพ เจริญกุศล รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการศึกษา และอาจารย์ครรชิต เมฆขลา รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ และพัฒนานักศึกษา ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมให้ความรู้ และสนับสนุนเครื่องลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มเปิดให้ลงคะแนนเสียงตั้งแต่เวลา 08.30น. และจะปิดการลงคะแนนเสียงในเวลา 15.00น. ณ อาคารเอนกประสงค์ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่


การเลือกตั้งครั้งนี้ เหมือนการเลือกตั้งจริงที่นักศึกษาต้องมาตรวจสอบรายชื่อ ดูรายชื่อของผู้สมัครเลือกตั้งนายกองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ประจำปีการศึกษา 2568 ทุกคนต้องแสดงบัตรประชาชน หรือบัตรประจำตัวนักศึกษา ต่อเจ้าหน้าที่พร้อมลงชื่อใช้สิทธิ์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่กกต. และเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ การใช้สิทธิ์ กดเลือกลงคะแนนตามเลขและรายชื่อ ของผู้สมัคร ใช้เวลาต่อคนไม่ถึง 10 วินาทีบางรายอาจจะใช้ 20 – 30 วินาที


เสียงจากน้องคณะกรรมการเลือกตั้งและน้องผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตกับการเลือกตั้ง และใช้เครื่องกดลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์แบบนี้ ร้อยละ 99 บอกตื่นเต้นมาก เพราะทุกคนเป็นครั้งแรกในชีวิตได้ใช้เครื่องและลงคะแนนแบบนี้ แต่พอได้ใช้แล้วสะดวก รวดเร็ว เพียงกดหมายเลขหรือชื่อตามที่เราเลือกไว้ แล้วกดยืนยัน ใช้เวลาไม่นาน ที่สำคัญมีความบริสุทธิ์ ยุติโรรมโปร่งใสมาก เพราะกดหมายเลขก้จะทำให้ทราบถึงผลคะแนนทันที่ ตรงตามจำนวนของผู้มาใช้สิทธิ์ ไม่มีบัตรเสีย บัตรเขย่ง ทราบผลทันที หากได้นำมาใช้จริงในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ ก็จะดีหมดปัญหาการโกงผลการเลือกตั้งได้

นักท่องเที่ยวต่างชาติพากันไปชิม ช้อป ใช้ ซอฟต์พาวเวอร์อาหารพื้นเมืองดังเดิม ณ ตลาดประตูเชียงใหม่

นักท่องเที่ยวต่างชาติพากันไปชิม ช้อป ใช้ ตลาดประตูเชียงใหม่ อีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์อาหารพื้นเมืองดังเดิม เป็นแหล่งหน่ายอาหารปรุงสุกอาหารพื้นเมืองรสชาติดังเดิม คงคนเหนือแท้ๆ บางรายการหารับประทานได้ยาก จากพ่อค้าแม่ค้าคนเหนือแท้ มีอาหารเช้า แบบบ้านๆให้รับประทาน เป็นตลาดสดมีจำหน่ายพืชผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ร้านจำหน่ายวัตถุดิบเครื่องปรุงรสต่างๆ

วันนี้ผู้สื่อข่าวพาไปอีกหนึ่ง ซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัดเชียงใหม่ จะหนาแน่นไปด้วยผู้คนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเป็นที่รู้จักกันดี มาจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้าต้องแวะมาเที่ยวชม ชิม ช้อป ใช้ ตลาดประตูเชียงใหม่ อยู่คูเมืองด้านในก่อนถึงประตูเชียงใหม่ จำหน่ายอาหารพื้นเมืองรสชาติดังเดิมแท้ บางรายการหารับประทานได้ยาก ขนมหวานทั้งของเหนือและภาคกลาง จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมไปถึงคนไทย ที่จะต้องแวะหารับประทานอาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิด ให้ได้รับประทาน โดยฉพาะข้าวเหนียว หมูทอด แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ลาบเมือง นักท่องเที่ยวจะแวะซื้อไปรับประทาน รวมไปถึงอาหารพื้นเมืองเหนือที่ปรุงสุกสนใหม่ให้ได้รับประทาน ทุกเช้าไปจนถึงสายจะหนาแน่นได้ด้วยรถนักท่องเที่ยว ที่แวะเวียนเข้ามา เห็นนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติเดินอยู่ใตลาด ตามหน้าแผงจำหน่ายอาหาร ก็ขึ้อยู่ว่าใครชื้นชอบอยากรับประทานอะไร ได้รับคำแนะนำ หรือชมผ่านดลกออนไลน์ที่หลายคนเดินทางมาจะเพื่อรับประทานชิมให้ได้ ก็จะมีรับซื้อรับประทานเลย หรือซื้อไปรับปะทานต่อยังที่พัก หรือเดินทางต่อไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

ขณะเดียวกันตลาดประตูเชียงใหม่ มีอีกหลากหลายซิกเนอร์เจอร์ ที่นักท่องเที่ยวแวะมารับประทานอาหารเช้า แบบบ้านๆ กาแฟ โอวันติล ไข่ลวก ยามเช้าเหมาะมากในห้วงนี้กับสภาพฝนตกกำลังเย็นสบาย หรือจะได้ข้าวเหนียวร้องๆ พร้อมหมูทอด ไก่ทอด น้ำพริกหนุ่ม บอกได้เลยว่าฟินสุดๆ อีกหนึ่งร้านที่บอกเลยว่าลูกค้าหนาแน่อีกซอฟต์พาวเวอร์ข้าวเหนียวมะม่วง และข้าวเหนียวทุเรียน ที่เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมสุดยอดของไทย นักท่องเที่ยวเดินมาแล้วจะไม่เดินผ่านต้องแวะซื้อรับประทาน โดยเฉพาะชาวจีนชื่นชอบมาก ต้องซื้อห่อกลับไปรับประทานต่อ ตลาดประตูเชียงใหม่แห่งนี้ จะเป็นตลาดเช้าจะมีทั้งชาวเชียงใหม่ ต่างจังหวัด นักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนเข้ามาตั้งแต่เช้าตรู่ จำหน่ายไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาหารเริ่มทะยอยหมดก็จะเริ่มเบาบางลง มาช้าต้องรออีกที่วันพรุ่งนี้เช้า