คณะแพทย์ฯ มช.แนะนำแนวทางปฏิบัติตัวตามระดับฝุ่นPM 2.5 เชียงใหม่อยู่เกณฑ์ สีแดง 50 – 150 มคก./ลบ.ม. ส่วน 5 อันดับพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มากสุดที่อำเภอฝาง วัดได้ 112.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร .อันดับ 2 อำเภอไชยปราการ วัดได้ 108.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 3 อำเภอแม่อาย วัดได้ 102.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 4 อำเภอเวียงแหง วัดได้ 98.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 5 อำเภอเชียงดาว วัดได้ 98.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้สรุปแนวทางปฏิบัติตัวตามระดับฝุ่นPM 2.5 ระดับ PM2.5(รายชม.) 35 – 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ประชาชนทั่วไปใช้ชีวิตตามปกติ ออกกำลังกายกลางแจ้งเบาๆ ได้กลุ่มเสี่ยงลดกิจกรรมนอกอาคาร ไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้งแล้ว ,ระดับ PM2.5(รายชม.) 50 – 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ประชาชนทั่วไปลดกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือนาน ไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้งแล้วกลุ่มเสี่ยงเลี่ยงกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานานควรอยู่แต่ในอาคาร ,ระดับ PM2.5(รายชม.) 150 – 250 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ประชาชนทั่วไปเลี่ยงกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานานควรอยู่แต่ในอาคาร กลุ่มเสี่ยงงดกิจกรรมนอกอาคารทุกชนิด และระดับ PM2.5(รายชม.) มากกว่า 250 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ประชาชนทั่วไปงดกิจกรรมนอกอาคารทุกชนิดกลุ่มเสี่ยงงดกิจกรรมนอกอาคารทุกชนิด
จากการตรวจสอบล่าสุด 11.00 น. จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ผ่านทางแอพพลิเคชั่น เช็คฝุ่น ระบบติดตาม PM2.5 ของวันที่ 26 มีนาคม 2568 จำนวน 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นสีแดงทั้งจังหวัด มีค่าตั้งแต่ 75.4 -112.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน 5 อันดับพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มากที่สุด อำเภอฝาง วัดได้ 112.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร .อันดับ 2 อำเภอไชยปราการ วัดได้ 108.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 3 อำเภอแม่อาย วัดได้ 102.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 4 อำเภอเวียงแหง วัดได้ 98.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 5 อำเภอเชียงดาว วัดได้ 98.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร