เฝ้าระวัง 11 อำเภอน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ของจังหวัดเชียงใหม่ ด้านอุตุฯเหนือออกประกาศฉบับที่ 3

 

เชียงใหม่ เฝ้าระวัง 11 อำเภอน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ของจังหวัดเชียงใหม่ ด้านอุตุฯเหนือออกประกาศฉบับที่ 3 ในช่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่บริเวณภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น


หลังจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ได้แจ้งเตือนจังหวัดเชียงใหม่ เฝ้าระวังพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่ วันที่ 9-13 พฤษภาคม 2568 ในพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วันที่ 10 – 13 พฤษภาคม 2568 นี้จำนวน 11 อำเภอ คืออำเภอ.แม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภออมทอง อำเภอสะเมิง อำเภอแม่วาง และอำเภอแม่ริม ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนเหนือ อำเภอตอนกลางและทางใต้ ที่มีแม่น้ำ ลำน้ำต้นน้ำ ไหลลงสู่แม่น้ำปิง และมี 3 อำเภอทางเหนือสุดที่จะไหลลงสู่แม่น้ำกก


ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้ออกประกาศฉบับที่ 3 (43/2568)เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณภาคเหนือในช่วงวันที่ 10-12 พฤษภาคม 2568 บริเวณภาคเหนือจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ฟ้าผ่า และฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่อความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ในช่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่บริเวณภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น หลีกเลียงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 : จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย อตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ ตากกำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากศูนย์อุตนิยมวิทยาภาคเหนือ และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ http://www.cmmet.tmd.go.th หรือที่ 053-277919
ประกาศ ณ วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 06.00 น.

ม.แม่โจ้ จับมือ TikTok พร้อม 5 มหาลัย พัฒนาวิชาพลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล

เชียงใหม่ ม.แม่โจ้ จับมือ TikTok พร้อม 5 มหาลัย พัฒนาวิชาพลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล สร้าง Smart People พลิกโฉมประเทศ หลังจากพิธีลงนาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เผยพร้อมดำเนินการจัดการเรียนการสอนได้ทันที ตามข้อสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปี เป็นวิชาศึกษาทั่วไป และยังเป็นวิชาเลือกเสรีให้นักศึกษาที่สนใจลงเรียนได้


ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ – มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยคณะสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะผู้ประสานงานหลัก จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง TikTok Technologies Ltd. กับ 6 สถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการร่วมมือพัฒนาวิชา “พลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล” ภายใต้แนวคิด “Smart Citizenship & Digital Resilience” เพื่อติดอาวุธทางปัญญาให้เยาวชนไทยมีภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล และสามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย ระยะความร่อมมือ 3 ปี


รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้กับ TikTok ในประเด็นการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 โดยได้ร่วมผลิตเนื้อหาเชิงรณรงค์ผ่านแฮชแท็ก เช่น #พื้นที่ปลอดภัยในการไถฟีด พื้นที่ปลอดภัยเพื่อทุกการสร้างสรรค์ และล่าสุด คนไทยรู้ทัน ที่มีผู้เข้าชมกว่า 3.4 พันล้านวิว โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการรู้เท่าทันข่าวลวงและภัยออนไลน์ในสังคมไทยอย่างยั่งยืน และในปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายผลความร่วมมือเข้าสู่การเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา


สำหรับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ หลังจากลงนามแล้ว สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ทันที เป็นวิชาพลเมืองดิจิทัล ซึ่งในบางหลักสูตรกำหนดเป็นวิชาศึกษาทั่วไป และยังเป็นวิชาเลือกเสรีให้นักศึกษาที่สนใจลงเรียนได้ ดังนั้นจึงมีนักศึกษาทั้งจากด้านเกษตร บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สังคมศาสตร์ รวมถึงด้านการสื่อสาร ลงทะเบียนเรียนในรายวิชากว่าปีละ 1,500 คน และในปีนี้เราได้ชวนเพื่อนจากอีก 5 มหาวิทยาลัยมาร่วมมือกัน ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบในเชิงวิชาการ แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่บูรณาการระหว่างมหาวิทยาลัยทั้งสามกลุ่ม ได้แก่ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยราชภัฎ และมหาวิทยาลัยกลุ่มราชมงคล ร่วมกับ ภาครัฐ และ ภาคเอกชน โดยเฉพาะ TikTok ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคนี้

อย่างไรก็ตามความร่วมมือในวันนี้จะก้าวข้ามขอบเขตของการรณรงค์สู่การออกแบบการเรียนรู้ที่ยั่งยืน ซึ่งจะส่งเสริมการสร้างพลเมืองในยุคดิจิทัล ที่รู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีจริยธรรมและรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ในโลกดิจิทัลที่มีความหลากหลายของเพื่อนมนุษย์ เพื่อเตรียมคนคุณภาพอันเป็นพละกำลังของแผ่นดินในการรับผิดชอบและเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น นี่คือหลักฐานของการสร้างระบบนิเวศทางการศึกษาและนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อสังคมไทย

SUN ลงนามความร่วมมือ Agro CMU หนุนวิจัย-พัฒนานวัตกรรมอาหาร

SUN ลงนามความร่วมมือ Agro CMU หนุนวิจัย-พัฒนานวัตกรรมอาหาร และเสริมทักษะนักศึกษาสู่ตลาดอุตสาหกรรม

วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 – บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Agro CMU) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรมอาหาร บรรจุภัณฑ์ และยกระดับทักษะของนักศึกษาให้พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ณ ห้องประชุม 3 คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

พิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธนา พิมลศิริผล คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนร่วมลงนาม พร้อมด้วยคณาจารย์และผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน การร่วมมือครั้งนี้เน้นส่งเสริมการวิจัยด้านเทคโนโลยีอาหารสมัยใหม่ อาทิ การศึกษากระบวนการถนอมอาหาร การกระจายความร้อน (Thermal Distribution), การแทรกผ่านความร้อน (Heat Penetration) และการประเมินอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ (Shelf Life Evaluation) เพื่อนำไปสู่การผลิตอาหารแปรรูปที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และตรงตามมาตรฐานสากล ในด้านการพัฒนาบุคลากร SUN พร้อมเปิดพื้นที่โรงงานเพื่อรองรับนักศึกษาในโครงการฝึกงาน สหกิจศึกษา และโครงการพิเศษที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยหรือการพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญภาคอุตสาหกรรม และส่งเสริมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง

นายองอาจ กิตติคุณชัย กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความร่วมมือกับ Agro CMU จะช่วยเชื่อมโยงภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมรากฐานสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน และเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการเรียนรู้เชิงปฏิบัติของนักศึกษา และเพิ่มโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร ตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต

 

ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี และคาดว่าจะมีการต่อยอดสู่โครงการอื่น ๆ เช่น การร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ของบริษัท หรือการเป็นฐานทดลองนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ในอนาคต เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในในระดับประเทศและสากลต่อไป

ตม.เชียงใหม่ บุกรวบแรงงานเมียนมา 5 คนพร้อมนายจ้างชาวเมียนมาลักลอบทำงานไม่มีใบอนุญาต

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 2 พ.ค.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.ช้างเผือก   อ.เมือง จว.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งว่ามีคนต่างด้าวลักลอบมาทำงานโดยผิดกฎหมาย ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา“เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” และ ข้อหา “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน” และจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาอีก 5 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 มาตรา 13

ผู้ต้องหารายที่ 2 – 5 ให้การรับสารภาพว่าตนได้เข้ามาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟและช่วยงานในครัวอยู่ในร้านแห่งนี้ เป็นเวลาประมาณ 1 ปี โดยมีผู้ต้องหารายที่ 1 เป็นนายจ้างและจ่ายค่าจ้างให้ โดยไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ จับ1เมียนมาลักลอบทำงานพนักงานล้างจานไม่มีใบอนุญาต


พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522หรือความผิดตามกฎหมายอื่น
วันที่ 1 พ.ค.68 เวลาประมาณ 01.00 น. พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.หายยา   อ.เมือง จว.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งว่ามีคนต่างด้าวลักลอบมาทำงานโดยผิดกฎหมาย ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561มาตรา 13


ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนได้เข้ามาทำงานเป็นพนักงานล้างจานอยู่ในร้านแห่งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.68 ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่
ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ รวบหนุ่มโรมาเนีย ใช้วีซ่าอุปการะภรรยาไทยอยู่เกินกำหนดวีซ่า

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522หรือความผิดตามกฎหมายอื่น


วันที่ 30 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีคนต่างด้าวลักลอบอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติโรมาเนีย จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป  โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยใช้วีซ่าอุปการะภรรยาไทย ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ สืบสวนติดตามจับกุมได้ในที่สุด


ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ จับหนุ่มจีนใช้วีซ่าเป็นนักท่องเที่ยว OVERSTAY

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 30 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.ทิพย์เนตร ต.หายยา อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไปโดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยใช้วีซ่าเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ สืบสวนติดตามจับกุมได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ จับชาวจีนใช้วีซ่านักศึกษาหมดเวลาไม่ยื่นอยู่ต่อ เกินวีซ่า 

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 24 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรด้วยวีซ่านักศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด และได้พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ สืบสวนติดตามจับกุมได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เริ่มแย่คุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ ขยับเกินค่ามาตรฐานบางพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอทางตอนเหนือ

 

 


ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ ความชื้นเริ่มหมดลงอากาศร้อนแห้งขึ้นส่งผลให้คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ จากช่วงที่ผ่านมาได้ 7 วันคุณภาพอากาศดีถึงดีมากเป็นสีฟ้าและเขียว จนถึงช่วงเช้าวันนี้ แต่ขยับเข้าช่วงสายเวลา 10.00 น. เริ่มเกินค่ามาตรฐานโดยเฉพาะอำเภอทางตอนเหนือ จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ผ่านทางแอพพลิเคชั่น เช็คฝุ่น ระบบติดตาม PM2.5 ของวันที่ 21 เมษายน 2568 จำนวน 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไม่เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบว่าหลายพ้นที่เริ่มเกินจากค่ามาตรฐาน เป็นสีส้ม 2 อำเภอ และ สีเหลือง 23 อำเภอ มีค่าตั้งแต่ 27.3 – 42.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน 5 อันดับพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มากที่สุด อำเภอฝาง วัดได้ 42.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร .อันดับ 2 อำเภไชยปราการ วัดได้ 38.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 3 อำเภอแม่อาย วัดได้ 36.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 4 อำเภอเชียงดาว วัดได้ 35.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 5 อำเภอเวียงแหง วัดได้ 34.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอำเภอเมืองเชียงใหม่ วัด 30.5ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร


ส่วนศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อน (Hotspot) จาก GISTDA ประจำวันที่ 21 เมษายน 2568 (รอบเช้า) ข้อมูลจาก suomi-NPP เวลา 02.25 น. จำนวน 2 จุด พบที่อำเภออมก๋อย 1 จุด และอำเภอฮอด 1 จุด จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 20 เม.ย. 2568 ทั้งหมดจำนวน 4,217 จุด (ข้อมูลสรุปจาก NASA Firm )

พรรค”ก้าวอิสระ“ ได้มาดามหยก นั่งหัวหน้าพรรคฯต่อ หลังจากประชุมสามัญประจำปีที่เชียงใหม่

เชียงใหม่ พรรค”ก้าวอิสระ“ ได้มาดามหยก นั่งหัวหน้าพรรคฯต่อ หลังจากประชุมสามัญประจำปีที่เชียงใหม่ เน้นจุดยืนที่ชัดเจน คือทุกคนจะต้องก้าวเดินอย่างอิสระ ทั้งความคิด เปิดโอกาสให้คนทุกลุ่ม ทุกเพศ ทุกอาชีพได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่และพร้อมเดินหน้ารับใช้พี่น้องชาวนครเชียงใหม่

พรรคก้าวอิสระ โดยนางสาวกชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก หัวหน้าพรรคฯ จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 พรรคก้าวอิสระ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี ผศ.ดร.บุญส่ง ชเลธร รองหัวหน้าพรรคก้าวอิสระ เป็นประธานเปิดการประชุม และนายมาโนช อุณหกาญจน์กิจ รองหัวหน้าพรรค เป็นผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม มีกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค ประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ณ ห้องประชุม โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่

ในการประชุมครั้งนี้มีวาระการประชุมที่สำคัญ คือการเลือกตั้ง-แต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และแต่งตั้งผู้รับผิดชอบศูนย์ประสานงานของพรรค ในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยโดยผลการเลือกตั้ง-แต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้แก่หัวหน้าพรรคก้าวอิสระนางสาวกชพร เวโรจน์ พร้อม1.รองหัวหน้าพรรคฯ
นายมาโนช อุณหกาญจน์กิจ ,2.รองหัวหน้าพรรคฯ ,นส.อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ,3.รองหัวหน้าพรรคฯ นายบุญส่ง ชเลธร ,4.รองหัวหน้าพรรคฯ นายอัษฏา พันธุ์วิชาติกุล ,5.รองหัวหน้าพรรคฯ นายไพโรจน์ อัครหิรัญภักดิ์ ,6.รองหัวหน้าพรรคฯ นางณัฐฐานันท์ ดวงมาลย์ ,7.รองหัวหน้าพรรคฯ นายเขมธนวัฒน์ ชูชาติวงศ์สกุล ,8.รองหัวหน้าพรรคฯ นายเอกณัฏฐ์ เรืองเดชธนาวุฒิ ,9.รองหัวหน้าพรรคฯ นายธาวิน พี.เซียวตง ,10.รองหัวหน้าพรรคฯ นายจำรูญวิทย์ จันนรานนท์ ,11.รองหัวหน้าพรรคฯ
นายณัฐพล ทองคำ และ12.รองหัวหน้าพรรคฯนายกิตติวินท์ แก้วคำภา
ส่วน เลขาธิการพรรค นายชาญชัย โตพฤกษา ,เหรัญญิกพรรค น.ส.ลภัสนันท์ หมื่นจิตย์ ,นายทะเบียนพรรคฯ นายรุ่งโรจน์ รุ่งณรงค์รักษ์ และโฆษกพรรคฯนายวีรพงษ์ ผ่องอำพร
ด้านกรรมการบริหารพรรคฯ1.นายนเรศร์ เกิดดี ,2.นายโชคชัย ตันประเสริฐ ,3.น.ส.ฐิติพร ประวัติศรีชัย,4.นายธเนศร์ พิทักษ์วงศ์สกุล

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 นางสาวกชพร เวโรจน์ มาดามหยก หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ กล่าวว่า พรรคได้ให้การสนับสนุนผู้สมัคร “นายการย์วิชญ์ วงษ์ทอง” ผู้สมัครหมายเลข 4 เป็นนายกเทศมนตรี พร้อมส่งผู้สมัคร ส.ท. ครบทั้ง 4 แขวง 24 คน โดยมีการเสนอ นโยบายเร่งด่วน เร่งแก้ปัญหาเพื่อเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ 1.การมีส่วนร่วมของคนเชียงใหม่ทุกด้าน สร้างความมั่นคงในคุณภาพชีวิต คุมเข้ม กวดขันลดอาชญากรรม ,2.สิ่งแวดล้อม ความสวยงามของเมืองเชียงใหม่ ถนนท่อที่เรียบปลอดภัย เร่งแก้ปัญหาฝุ่น ควันพิษมลภาวะ ส่งเสริมพลังงานสะอาด ,3.แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน ในจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มรายได้เข้าสู่จังหวัด อย่างยั่งยืน ,4.เร่งแก้ปัญหาด้านสาธารณสุข ให้คนเชียงใหม่เข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยทั่วถึง เท่าเทียมกัน ทุกเพศ ทุกวัย

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก้าวอิสระ ก้าวไปด้วยกัน เพื่อนครเชียงใหม่ ภายใต้การนำของ นางสาวกชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ ประธานชมรม Change Together เปลี่ยนไปด้วยกัน มุ่งขับเคลื่อนและส่งเสริมสนับสนุนความหลากหลายทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ทีมก้าวอิสระหรือ Indy Team โดยคัดเลือกตัวแทนจากความหลากหลายกลุ่มอาชีพ เพศ อายุ เข้าร่วมชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ครบทั้ง 4 แขวง พร้อมผลักดันนโยบายหลัก 6 ด้าน ของสีรุ้งสามประสานคือ วัยรุ่นคิดสร้างสรรค์ วัยทองเปี่ยมประสบการณ์ วัยทำงานเชี่ยวชาญอาชีพ

สำหรับตัวแทนของทีมก้าวอิสระ ได้ส่งผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ คือ “การย์วิชญ์ วงษ์ทอง” รองประธานมูลนิธิเอ็มพลัส อดีตเลขาธิการสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทยภาคเหนือ อดีตอุปนายกสมาคมไทยล้านนาสปา อีกทั้งเคยดำรงตำแหน่งองค์กรภาครัฐและเอกชนอีกมากมาย จบการศึกษาบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นบุคคลที่มีอุดมการณ์และมีประสบการณ์หลากหลายวิชาชีพ เพื่อจะพัฒนาท้องถิ่นสู่ความยังยืน อีกทั้งมีความตั้งใจที่จะนำความรู้มาใช้ในการพัฒนาเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งความสุขอย่างแท้จริง

”ก้าวอิสระ“ มีจุดยืนที่ชัดเจน คือทุกคนจะต้องก้าวเดินอย่างอิสระ ทั้งความคิด เปิดโอกาสให้คนทุกลุ่ม ทุกเพศ ทุกอาชีพได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่และพร้อมเดินหน้ารับใช้พี่น้องชาวนครเชียงใหม่