ผู้เขียน: sirapress

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้งผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่นเมื่อวันที่ 24 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.ทิพย์เนตร ต.หายยา อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติมาเลเซีย จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป

โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยใช้วีซ่าเป็นนักเรียนโรงเรียนสอนภาษา ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ สืบสวนติดตามจับกุมได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทางตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น เมื่อวันที่ 20 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.หายยา อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (550 วัน)” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป

โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.66 โดยใช้วีซ่าเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ สืบสวนติดตามจับกุมได้ในที่สุด
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เชียงใหม่ เสน่ห์ดาราเทวี หวนกลับกลิ่นอายแบบล้านนาคงความสวยงามพร้อมเปิดให้เที่ยวชมแล้ว เฟสแรกได้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชม คงคุณภาพของดาราเทวีร้านอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่

วันนี้ผู้สื่อข่าวพาไป ดาราเทวี จากที่เคยรุ่งเรือง กลับยุคเสื่อมถอย ต้องปิดตัวลงไป สู่การเปิดประมูลขาย ล่าสุดมีนักธุรกิจของไทยกลับมาประมูลได้กลับมาเปิดอีกครั้งเพียงบางส่วน ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุง นายปรวีย์ บริทตัน ผู้บริหารThe Legend Music Bar @ Daradhevi Chiangmai กล่าวว่าได้เปิดเป็นที่สาธารณะ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ แบ่งเป็นเฟสในการปรับปรุง แต่ตอนนี้เปิดส่วนหน้าให้เป็นสาธารณะประโยชน์ เข้ามาเที่ยวชม เดิน วิ่ง ออกกำลังกายได้ตั้งแต่เชช้าจนถึง 21.00 น. โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำจะสวยงามมากของสายถ่ายภาพ เซลฟี่ต่างๆ ที่เปิดให้บริการมี ร้านอาหารไทยและต่างชาติ มีเชฟชื่อดังมารังสรรเมนูให้รับประทาน เมื่อก่อนเป็นอย่างไร ดาราเทวีค่อยคืนกลับมาเป็นแบบเดิม โดยเฉพาะร้านกาแฟ เบเกอรีของดาราเทวีมีชื่อเสียงเป็นอยางมาก โดยเฉพาะ มาการง

พร้อมThe Legend Music Bar @ Daradhevi Chiangmaiที่เปิดให้บริการฟังเพลงสากลเพราะจากเปียนโน ระดับอาจารย์ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ ดีกรีแชมป์ประเทศไทยมาประจำ มีสูตรคอกเทลซิกเนเจอร์ ประจำร้านชื่อเสน่หา ดาราเทวี จะมีเพียงที่นี้แห่งเดียวเท่านั้น เปิดตั้งแต่ 17.00 – 00.00 น. ของทุกวัน นอกจากนี้ร้านค้า ต่างๆ เปิดให้บริการแต่เช้าจนถึง 21.00 น. สวนที่เปิดเพิ่มบริเวณลานสนามหญ้า มีหอต่างๆ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา สามารถเดินชมถ่ายภาพแต่ยังไม่เปิดให้เข้าไปชมด้านในได้จนถึงเวลา 21.00 น. เช่นกัน อย่างไรก็ตามเปิด กาดดาราเทวี จัดสัปดาห์สุดท้ายของทุกเดือน วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ให้พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ชุมชนเข้าแสดงและจำหน่ายสินค้าหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นเมือง การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน

ทั้งนี้ในส่วนต่างๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบปรับปรุง เพื่อให้ดาราเทวีกลับมาเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่ง 1 จุดนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมสถาปัตยกรรมล้านนาที่งดงาม แต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะที่กลับฟื้นคืนมา เหมือนที่เคยรุ่งเรืองในอดีต แต่ก็คงไม่มานานมากเพราะสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ยังคงได้รับการดูแล จะเห็นได้จากด้านหน้าที่ปรับปรุงคงอยู่ในสภาพที่ดี ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวเชียงใหม่ จากต่างจังหวัดมาเชียงใหม่แล้ว ต้องนึกถึง แวะมาเที่ยวชมที่ดาราเทวี

เชียงใหม่ ไม่ใช้แบรนด์ดังปังสุดๆ บิ๊ก บิ๊กชาบู หมูกระทะแบรนด์ท้องถิ่นที่เติบโตเร็วผ่านมา 7 ปีขยายได้ 15 สาขา กลางปีครบ 20 สาขาตามเป้า

วันนี้ผู้สื่อข่าวพาไป ธุรกิจแบรนด์ท้องถิ่นเปิดร้าน ชาบู หมูกระทะ ชื่อบิ๊ก บิ๊ก หลังจากการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัศโควิด -19 เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยรวม ร้านค้า ร้านอาหาร ผู้ประกอบการต่างๆ รวมไปถึงภาคบริการด้านท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ปิดตัวลง มาจนถึงขณะนี้บางรายยังไม่สามารถกลับมาเปิด จากปัจจัยทางธุรกิจและเศรษฐกิจ ยังไม่ฟื้นตัวมากหนัก เช่่นเดียวกับร้านชาบู และหมูกระทะ ที่ฟื้งฟูเจ้าดังๆ ในเมืองเชียงใหม่ ก็ปิดตัวลง แต่บิ๊ก บิ๊ก ชาบู หมูกระทะ เป็นอีกหนึ่งที่กำลังเติบโต ผ่านมาเข้าสู่ปีที่ 7 กลายเป็นแบรนด์ ดังของจังหวัดเชียงใหม่ เปิดแล้วล่าสุด 15 สาขา ในตัวเมืองเชียงใหม่และอำเภอใกล้เคียงและมีร้านเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของลูกค้าที่อยากรับประทานตอนไหน ก็สามารถมารับประทานได้ทุกเวลา

ด้านนายอดิสร ศรีโสภณ ผู้จัดการสาขา กล่าวว่าการที่บิ๊ก บิ๊ก ชาบูหมูกระทะ สามารถขยายสาขาได้มากถึง 15 สาขานั้นมาจากจุดแข็งของการให้บริการ ดูแลลูกค้า โดยเฉพาะวัตถุดิบที่คัดสรรเข้ามาให้ลูกค้าได้รับประทาน มาตรฐานทุกสาขาจะเหมือนกัน ของจะไม่หมดมีเติมให้ลูกค้าตลอดเวลา เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ต่อหัว โดยเฉพาะอาหารทะเล ตรงมาจากจังหวัดระนอง ซึ่งเจ้าของได้ดิวกับผู้ค้าโดยตรงส่งตรงมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ทุกวันสดๆ จึงทำให้ราคาไม่แพงชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ สามารถรับประทานได้อย่างไม่อั๋น ไม่จำกัดเวลา โดยเฉพาะสาขาที่มีอาหารทะเล จะแน่นเต็มเกือบทุกวัน อย่างสาขาล่าสุด อำเภอสารภี เขตติดต่อตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพียงวันแรกลูกค้าก้เต็มร้าน เพราะมาครบจบที่เรา บิ๊ก บิ๊ก ชาบูหมูกระทะ ในตอนนี้กำลังเตรียมเปิดสาขาเพิ่มในกลางปีนี้ให้ครบ 20 สาขา ส่วนหลายคนมองถึงผลกำไรนั้น ไม่ได้มาก จะเห็นราคาที่ตั้งไว้มี 99 – 219 ให้ลูกค้าได้เลือกรับประทาน

เชียงใหม่ ฝุ่นควันPM 2.5 แผ่ปกคลุม,ดอยสุเทพหาย ปชช.ล้มป่วย ทั้งจังหวัดเชียงใหม่วิกฤต จมฝุ่มPM 2.5 สีแดงทั้งจังหวัด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจสอบปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ผ่านทางแอพพลิเคชั่น เช็คฝุ่น ระบบติดตาม PM2.5 เวลา 09.00 น. วันที่ 17 มีนาคม 2568 พบว่าทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นสีแดงทั้ง 25 อำเภอ มีค่าตั้งแต่ 79.6 -105.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ข้อมูลรายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ 5 อันดับสูงสุด พบมากที่สุดที่อำเภอเวียงแหง วัดได้ 105.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร .อันดับ 2 อำเภอเชียงดาว 103.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 3 อำเภอไชยปราการ วัดได้ 99.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อันดับ 4 อำเภอกัลยาณิวัฒนา วัดได้ 97.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 5 อำเภอฝาง 96.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอำเภอเมืองเชียงใหม่ อยู่อันดับ 24 วัดได้ 86.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตามในตัวเมืองเชียงใหม่ ดอยสุเทพได้หายต่อเนื่องจากฝุ่นควันไฟป่า PM2.5 แผ่ปกคลุมเป็นสีขาวทั้งเมือง ครอบคลุมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ประชาชนต้องประสบภัยจากฝุ่นPM2.5 ด้วยโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ แสบตา แสบจมูก โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องหันมาสวมหมวกกันน็อคที่มีหน้ากากปิดหน้า และสวมหน้ากากอนามัย หรือผู้คนที่ต้องทำงานกลางแจ้งก้ต้องหาแว่นตา และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นPM2.5 ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงสายสภาพอากาศปิด ไม่มีการระบายของอากาศ

เชียงใหม่ 25 อำเภอ ทั้งจังหวัเชียงใหม่จากเช็คฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ศูนย์อำนวยการฯประชุมด่วน ไฟป่าเพิ่มนับ100 จุด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ผ่านทางแอพพลิเคชั่น เช็คฝุ่น ระบบติดตาม PM2.5 เวลา 09.00 น.พบว่าทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นสีส้มมีค่าตั้งแต่ 53 -68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 5 อันดับสูงสุด พบมากที่สุดที่อำเภอเวียงแหง 68.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาอันดับ 2 อำเภอกัลยาณวัฒนา วัดได้ 67.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 3 อำเภอแม่อาย วัดได้ 66.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,อันดับ 4 อำภอฮอด วัดได้ 64.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอันดับ 5 อำเภอฝาง วัดได้ 63.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะเดียวกัน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมด่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์หลังจาก หลังจากค่าฝุ่นละออง เพิ่มสูงขึ้น จากจุดHot spot กว่าร้อยจุด ใน 11 อำเภอ ตั้งแต่ 14 มีนาคม 2568 ที่ประชุม สั่งยกระดับการปรับแผน เตรียม ฮ.ทส. ออกปฏิบัติภารกิจดับไฟด่วน

เมื่อวานนี้ จากการรายงานจุดความร้อน (Hotspot) จาก GISTDA ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2568 (รอบบ่าย) ข้อมูลจาก suomi-NPP เวลา 13.49 น. จำนวน 114 จุด พบมากที่สุดอำเเภออมก๋อย 60 จุด ,อำเภอเชียงดาว 22 จุด ,อำเภอดอยเต่า 11 จุด ,อำเภอฮอด 8 จุด ,อำเภอพร้าว 5 จุด ,อำเภอแม่แจ่ม 5 จุด ,อำเภอแม่อาย 1 จุด ,อำเภอกัลยาณิวัฒนา 1 จุด และอำเภอแม่แตง 1 จุด

ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การเพาะเลี้ยงและการใช้ประโยชน์จากไข่ผำเพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์” รุ่นที่ 1 โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการจากหลายจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างคึกคัก เมื่อวันที่ วันที่ 8 มีนาคม 2568 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โครงการนี้มุ่งเน้นให้ความรู้ด้านเทคนิคการเพาะเลี้ยงไข่ผำในระบบอินทรีย์ แนวทางการตลาด และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อต่อยอดการสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมสมัยใหม่ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ ได้แก่ อาจารย์ ดร.ศุภชัย สุทธิเจริญ และ ว่าที่ ร.ต. ณัฏฐ์ศรันย์ ศรีกิจ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ ผศ.ดร.จอมสุดา ดวงวงษา จากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร ในฐานะผู้จัดโครงการฯ กล่าวว่า “โครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านไข่ผำจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมไข่ผำให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งศึกษาตัวอย่างแนวทางการนำไข่ผำไปใช้เชิงพาณิชย์ ซึ่งด้วยศักยภาพของไข่ผำในฐานะโปรตีนทางเลือก และโอกาสในการขยายตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การอบรมเครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้ “ไข่ผำ” กลายเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรมในอนาคต เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำและนักพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้ ที่สามารถนำไปพัฒนาการผลิตและการตลาด เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม และช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ไข่ผำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดระดับสากล”

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลรายละเอียดการฝึกอบรมเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ฝ่ายกิจการพิเศษและหารายได้ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 0 5387 5600 ในวันและเวลาทำการ

พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 เวลา 15.00 น. ได้เข้าพบปะมิสเตอร์ Patrick Picciano หัวหน้าสำนักงานปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา (Drug Enforcement Administration : DEA) ประจำเชียงใหม่ และคณะฯ หารือข้อราชการ ขอความร่วมมือแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลยาเสพติดที่มีผลกระท บต่อประเทศไทยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสานข้อมูล ยาเสพติดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงความร่วมมือที่ทั้ง 2 หน่วยงานจะได้สนับสนุนข่าวสารซึ่งกันและกันอันจะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อน แผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ตามนโยบายของรัฐบาล ต่อไป