ผู้เขียน: sirapress

เชียงใหม่ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประกอบพิธีบวงสรวงสมโภชเชียงใหม่ครบรอบ 729 ปี เพื่ออปัดเป่าเพศภัยที่เกิดขึ้น

ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ/มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาประกอบพิธีบวงสรวงองค์บูรพมหากษัตริย์ล้านนาไทยอย่างยิ่งใหญ่ หวังให้ชาวเชียงใหม่พบความสุขในงานสมโภชเชียงใหม่ครบรอบ 729 ปี

วันที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ/ประธานมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาเป็นประธานในการประกอบพิธีบูชาบวงสรวงองค์บูรพมหากษัตริย์ล้านนาไทย และพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตลอดจนถึงการบูชาทวยเทพเทวา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และบูชาเสื้อบ้านเสื้อที่ท่านได้ปกปักรักษาดูแลเมืองเชียงใหม่และประเทศไทย ในงานพิธีสมโภชเชียงใหม่ 729 ปี เพื่อให้ชาวเชียงใหม่และชาวไทยทุกคนมีความสุข สงบ ร่มเย็นตลอดจนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

สำหรับพิธีบวงสรวงใหญ่ในครั้งนี้มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ/มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา ร่วมกับนางสาวภีชญา กริ่มวงศ์รัตน์ และคณะศิษยานุศิษย์ เป็นเจ้าภาพได้จัดพิธีที่ยิ่งใหญ่สมบูรณ์ด้วยเครื่องบวงสรวงอย่างดีกว่า 100 อย่าง ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ พร้อมบายศรีแบบโบราณที่หาชมได้ยากและถูกต้องตามจารีตประเพณีโบราณ โดยใช้งบประมาณจากมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ/ประธานมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนากว่า 600,000 บาท เพื่อน้อมสักการะแด่บุรพกษัตริย์ไทยที่ท่านได้ปกปักรักษาดูแลเมืองเชียงใหม่และประเทศไทย

นอกจากนี้มูลนิธิฯและคณะศิษยานุศิษย์ ได้จัดกองผ้าป่าจำนวนเงิน 50,000 บาทมอบถวาย ให้กับวัดอินทขิล(สะดือเมือง) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสืบสานศาสนา พร้อมกับการแจกข้าวสาร ยารักษาโรค รวมทั้งทุนทรัพย์ให้กับผู้ยากไร้จำนวน 500 คน มูลค่า 200,000 บาท เพื่อเป็นการทำบุญใหญ่ให้บ้านเมือง ในวาระครบรอบ 729 ปีของเมืองเชียงใหม่ ถือเป็นบุญที่ส่งต่อให้ผู้ที่มีหน้าที่ต่อบ้านเมืองทุกท่านที่ได้มาร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อเมืองเชียงใหม่ของเรา และคณะศิษย์ยานุศิษย์หลวงปู่เฒ่าเกวาลันแห่งเทือกเขาหิมาลัย จะได้มาร่วมอนุโมทนายินดี โดยอานิสงส์ในการสร้างบุญในครั้งนี้จะส่งผลให้ทุกคนมีอายุมั่นขวัญยืน ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นผู้มีสุขภาพที่ดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ กล่าวว่าเนื่องจากประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่ เกิดเหตุการณ์อุบาท เกิดเหตุต่างๆ จากอากเพศที่เกิดขึ้นมา เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี จากหนักให้กลายเป็นเบา จากเบาให้หายไป จากบ้านเมืองและจังหวัดเชียงใหม่ เพราะเกิดเหตุภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ก็อขอย่าไปกังวลกับเหตุเพศภัยที่เกิดขึ้นเพราะทุกๆ ก็เกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ว่าดินน้ำลมไฟ จากนี้ไปก็จะมีเนื่องๆ แต่จะไม่หนักอย่างที่ผ่านมา

ตม.เชียงใหม่ รวบชาวจีนหนีหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่คดีบุกรุก

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522หรือกระทำความผิดตามกฎหมายอื่นๆ

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ ได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.เชียงใหม่ร่วมกับกก.สส.บก.ตม.5 เข้าติดตามจับกุม ชายสัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ต้องหารายนี้ได้กระทำความผิดในพื้นที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวยังคงพักอาศัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้วางแผนติดตาม จนพบตัวที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ และเข้าแสดงตัวพร้อมหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.593/2568 ลง 27 มีนาคม 2568 ความผิดฐาน “บุกรุก โดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เสียทรัพย์” หลังจับกุมได้ดำเนินการนำตัวส่ง พงส.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เชียงใหม่ กำนันสันผีเสื้อ ติดตามรุกหาดก๋ำเบ้อ หลัง ป.ป.ช. ลงพื้นที่ตรวจสอบกว่า 1 ปี หวั่นถูกผู้มีอิทธิพลข่มขู่คุกคาม ขอเวลาไต่สวนภายใน 2 ปี

วันที่ 10 เมษายน 2568 ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นายธนกฤต พรมเสน กำนันต.สันผีเสื้อ อ.เมือง พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนกว่า 20 คน ได้
มายื่นหนังสือ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีบุกรุกที่สาธารณะริมน้ำปิง หรือหาดก๋ำเบ้อ บ้านป่าข่อยใต้ หมู่ 2 หลังเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ได้จัดสรรพื้นที่ดังกล่าว เป็นร้านค้าและแผงลอยจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเก็บค่าเช่ารายละ 70,000-100,000 บาทในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 หรือกว่า 1 ปีที่ผ่านมา มีนายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ รับเรื่อง
ดังกล่าว ก่อนเชิญนายธนกฤต พร้อมตัวแทนรวม 6 คน เข้าห้องประชุม เพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าว ตามลำดับ

นายนิรันดร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวป.ป.ช. ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงพื้นที่ติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที เพื่อหาพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดีอย่างละเอียด รัดกุมและรอบคอบ ซึ่งคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่ได้สอบพยานและผู้เกี่ยวข้องกว่า 40-50 ปากแล้ว เพื่อใช้เป็นพยานในชั้นศาล ถ้าสำนวนคดีไม่ชัดเจนอาจถูกศาลยกฟ้องได้ ทั้งนี้ ป.ป.ช. จะเร่งรัดคดีภายใต้กรอบกฏหมาย ซึ่งกำหนดเวลาไต่สวนได้ไม่เกิน 2 ปี แต่ขยายเวลาออกไปได้อีก ไม่เกิน 3 ปีหลังจากรับเรื่องแล้ว จะทำหนังสือและติดตามเรื่องดังกล่าวอีกครั้งเพื่อนำไปชี้แจงต่อประชาชนต่อไป

นายนิรันดร กล่าวว่า คดีบุกรุกที่สาธารณะริมน้ำปิง หรือหาดก๋ำเบ้อ ถือเป็นคดีตัวอย่างหรือโมเดล การบริหารจัดการชายหาดริมน้ำปิงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อจัดระเบียบให้ถูกต้องตามกฏหมาย ส่งเสริมท่องเที่ยวและสร้างรายได้ชุมชนไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์จากที่สาธารณะดังกล่าว ซึ่งมีความพึงพอใจที่คดีดังกล่าว มีความคืบหน้าไปมาก หากมีการใช้บารมีอิทธิพลข่มขู่คุกคามชาวบ้าน สามารถเข้าโครงการคุ้มครองพยานได้

นายธนกฤต กล่าวว่า พอใจคำชี้แจงดังกล่าว และไม่ติดใจอย่างใด เพียงต้องการติดตามความคืบหน้าคดี และแนวทางการดำเนินคดีของ ป.ป.ช.เพื่อชี้แจงชาวบ้านเท่านั้น พร้อมขอให้ ป.ป.ช. ช่วยเหลือหรือดูแลประชาชน ที่ถูกข่มขู่คุกคามจากผู้มีอิทธิพล ให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะผู้เกี่ยวข้องเป็นนักการเมืองท้องถิ่นด้วยภายหลัง ป.ป.ช.ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านพอใจและสลายตัวชุมนุม เพื่อเดินทางกลับทันที โดยไม่มีเหตุรุนแรงอย่างใด

ตม.เชียงใหม่ จับกุมนายจ้างคนไทยและคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวนปราบปราม บูรณาการร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.ราชวิถี ต.ศรีภูมิ        อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ หลังสืบทราบมาว่ามีคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง และลักษณะงานที่ทำ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เข้าทำงาน” และนายจ้างคนไทย จำนวน 1 ราย ข้อหา “จ้างคนต่างด้าวทำงานไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบชื่อและสัญชาติของคนต่างด้าวและลักษณะงานที่ให้ทำภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่จ้าง”อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2561  (ฉบับที่ 2) มาตรา 8

ผู้ต้องหาชาวเมียนมา ให้การรับสารภาพว่า ตนได้มาทำงานที่ร้านแห่งนี้ได้ประมาณ 1 เดือนเศษ โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 11,000 บาท ส่วนนายจ้างชาวไทยให้การยอมรับว่า ได้ว่าจ้างให้ชาวเมียนมารายนี้ มาทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัว ซึ่งตนเป็นผู้ดูแลและควบคุมการทำงาน โดยไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook

 

ตม.เชียงใหม่ จับกุมต่างด้าวลักลอบทำงานแม่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต

1. 

พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้งผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 8 เม.ย.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวนปราบปราม บูรณาการร่วมกับ กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 และ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.ขัวมุง อ.สารภี จว.เชียงใหม่ หลังสืบทราบมาว่ามีคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งนายทะเบียนทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทำงานของนายจ้าง และลักษณะงานที่ทำภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เข้าทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2561 (ฉบับที่ 2) มาตรา 8

คนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่า ตนลาออกจากที่ทำงานเดิม และได้ลักลอบมาทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2568 โดยไม่ได้แจ้งเปลี่ยนนายจ้าง และสถานที่ทำงานแต่อย่างใด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

 

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เชียงใหม่ สงกรานต์เชียงใหม่คึกคัก เพื่อไทย และประชาชน ส่งแกนนำช่วยผู้สมัครหาเสียงชิงนายกฯเล็ก ด้าน”หน่อย” อดีตนายกฯ เล็ก ไม่กังวลกับกระแสพรบ.คาสิโน กระทบคะแนนเสียง กกต.เชียงใหม่ จัดกิจกรรมให้ความรู้ที่เท่าทันในการกระทำผิดทางการเมืองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัริย์ทรงเป็นประมุข แก่ผู้สมัครนายกฯ และ สมาชิกสภาเทศบาล 121 แห่ง

 

คณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ที่เท่าทันในการกระทำผิดทางการเมืองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัริย์ทรงเป็นประมุข แก่ผู้สมัครนายกฯ และ สมาชิกสภาเทศบาล 121 แห่ง โดยใช้ระบบซูม ไปแต่ละเทศบาล เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจการหาเสียงเลือกตั้งที่กระทำได้และกระทำไม่ได้ ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่ จัดขึ้น ณ ณ ห้องประชุมแกรนด์วิว 1 ศูนย์ประชุมนานาชาติโรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ มาเข้าร่วมครบทั้งเพื่อไทย เพื่อเชียงใหม่ ประชาชน และก้าวอิสระ ขาดเพียง ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หมายเลข 5

 

ด้านนายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หมายเลข 3 กลุ่มเพื่อไทย กล่าวว่าบรรยากาศการหาเสียงได้การตอบรับจากประชาชนในแต่ละชุมชน ซึ่งได้พบปะพี่น้องประชาชนครบทุกชุมชน ยังได้พบกับผู้สมัครกลุ่มอื่นๆ ที่ลงพื้นหาเสียงเป็นไปด้วยมิตรภาพที่ดี ของการหาเสียง นโยบายของทางกลุ่มจะออกหลังเทศกาลสงกรานต์ ตอนนี้ลงพื้นที่ให้มากแนะนำพบปะพี่น้องชาชน ส่วนกระแสการพลักดัน พรบ.คาสิโนของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบเพราะการเมืองท้องถิ่นจะแตกต่าง จากการเมืองระดับชาติ แต่จุดเด่นของกลุ่ม เพราะการทำงานของเทศบาลนครเชียงใหม่ จะมีการทำงานเชื่อมโยงสานสัมพันธ์ต่อรัฐบาล กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในการทำงานดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จากกระแสดังกล่าวจะไม่กระทบต่อฐานคะแนน ขณะเดียวกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีข่าวว่านายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเล่นน้ำที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นก็ทราบจากข่าว ส่วนจะได้มาช่วยหาเสียงหรือไม่นั้นต้องรอทางพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง

นายธีรวุฒิ แก้วฟอง หมายเลข 2 กลุ่มประชาชน กล่าวว่าทุกสัปดาห์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงได้มาลงพื้นที่ ช่วยทางกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ยังเน้นใช้การลงพื้นที่ไปเคาะตามประตูบ้านในชุมชนต่างๆ เพื่อนำเสนอ นโยบายเป็นหลัก ซึ่งมีอยู่ 73 ของการที่จะเข้ามาดำเนินการ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการนำเสนอให้ตรงกับกลุ่มที่มีความต้องการ จากการลงพื้นที่เสียงสะท้อนยังเป็นระบบสาธารูปโภคพื้นที่และโครงสร้างพื้นที่ หากได้รับโอกาสจะเป็นสิ่งแรกที่เข้าไปดำเนินการเป็นเรื่องแรกๆ ส่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รับประสานทางพรรคประชาชนสาขาเชียงใหม่ จะมีแกนนำลงพื้นที่มาช่วยอย่างที่รู้ๆ มีหัวหน้าพรรค และอดีตหัวหน้าพรรคมาช่วยในครั้งนี้

จากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายการการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ของวันที่ 4 เมษายน 2568 เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ถึง 4 ครั้ง ตั้งแต่เวลา 01.02 น. ครั้งแรก ขนาด 2.8 ลึก 1 กิโลเมตร ที่ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว ,ครั้งที่ 2 เวลา 01.29 น. ขนาด 1.6 ลึก 1 กิโลเมตร ที่ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว ,ครั้งที่ 3 เวลา 01.46 น. ขนาด 2.4 ลึก 1 กิโลเมตร ที่ ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว และครั้งที่ 4 เวลา 04.37 น. ขนาด 2.1 ลึก 5 กิโลเมตร ที่ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว ยังไม่มีการรายงานของประชาชนสามารถรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ ซึ่งเป็นตำบลเมืองงาย 3 ครั้ง แต่ตำบลเมืองคอง 1 ครั้ง

เชียงใหม่ ผช. รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยนายกฯ มาเล่นน้ำสงกรานต์เชียงใหม่ หลังเปิดงานเทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง อ.สันกำแพง เผย ในช่วงวันที่ 13 เมษายนนายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะได้เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดงานเทศกาลสงกรานต์จังหวัดเชียงใหม่ และหากกำหนดการไม่คาดเคลื่อนนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมายังอำเภอสันกำแพงและเข้าเยี่ยมชมงาน “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง”

ที่โหล่งฮิมคาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานและกิจกรรมแถลงข่าว “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” โดยมีนายภิญโญ พัวศรีพันธุ์นายอำเภอสันกำแพงกล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานมูลนิธิสืบสานล้านนา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีเปิดงาน

“สันกำแพงเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ เมืองหัตถกรรมบนถนนต้นฉำฉาโบราณ” ในอดีตที่ผ่านมา อ. สันกำแพงมีความรุ่งเรือง เรื่องเครื่องปั้นสันกำแพง ผ้าไหมและร่ม รวมถึงงานกระดาษสา ในปัจจุบันชุมชนหัตถกรรมในอำเภอสันกำแพงได้มีมีการรวมตัวกันในนาม 10 โหม้งโหล่งผญ๋า เพื่อให้เกิดการตามรอยหัตถกรรม ฟื้นความทรงจำความสันกำแพงสู่ความร่วมสมัย ร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยวชุมชนใน 3 เส้นทางน่าแอ่วจังหวัดเชียงใหม่ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อน “เชียงใหม่เมืองเทศกาล” ได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมเทศกาลที่สะท้อนอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ โดยหนึ่งในเทศกาลสำคัญ คือ “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” นี้จัดขึ้น ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนเมษายน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

โดยเชื่อมโยงพื้นที่ 3 กาดหัตถกรรมหลัก ได้แก่ กาดฉำฉา กาดจาวเขิน และกาดหนองพญาพรหม ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางสัมผัสเสน่ห์ของสันกำแพงผ่าน 3 เส้นทางหัตถกรรมที่น่าเที่ยวอำเภอสันกำแพงเป็นศูนย์กลางหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ร่มบ่อสร้าง เครื่องปั้นดินเผา ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และงานไม้แกะสลัก ซึ่งล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลสำคัญอย่าง เทศกาลร่มบ่อสร้าง ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองภูมิปัญญาท้องถิ่นและกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

ซึ่งปีนี้ เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพงจะพิเศษยิ่งขึ้น ด้วยกิจกรรมเรียนรู้ 10 โหม้งโหล่งผญ๋า ที่นำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หาชมได้ยาก ได้แก่ “โหม้งกาดจาวเขิน” – สัมผัสวัฒนธรรมไทเขิน ชมงานขันโตกกลางบ้าน สรงน้ำพระไตวรญาณ และกิจกรรมหัตถกรรมเชิงอนุรักษ์,
“โหม้งกองดีมีศิลป์” เรียนรู้ศิลปะล้านนา เช่น การทอผ้าจิ๋ว ปั้นเครื่องถ้วย ตัดตุง และตีแผ่นแร่, “โหม้งห้วยทราย” ชมการปั้นหม้อโบราณ ฟังดนตรีค่าวอ่ำล้านนา และเรียนรู้วรรณกรรมท้องถิ่น, “โหม้งแช่ช้าง” ผลิตและเรียนดนตรีล้านนา เช่น ซึง สะล้อ และอังกะลุง, “โหม้งร้องวัวแดง” สาธิตการเลี้ยงปลาในนา การปลูกผักสวนครัว และงานจักสานพื้นบ้าน, “โหม้งหนองพญาพรหม” ร่วมทำบุญปี๋ใหม่เมือง แขวนตุง และเพนท์เครื่องปั้นดินเผา, “โหม้งวัดป่าตาล” เรียนรู้หัตถกรรมทอผ้า นวดตอกเส้น และชมบ้านโบราณเฮือนเจ้าขุน, “โหม้งแม่ปูคา” อบรมทำลาบเมือง ตีมีดลาบ และทำขนมโบราณล้านนา, “โหม้งโหล่งฮิมคาว” กิจกรรมทำสบู่ เทียนหอม ศิลปะเด็ก และตลาดหัตถกรรม และ “พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก” ชมปฏิมากรรมไม้แกะสลักและกิจกรรม Workshop ศิลปะไม้

พิเศษ PASSPORT ตามรอยเรียนรู้งานหัตถกรรมนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษโดยสะสมตราประทับจาก “10 โหม้งโหล่งผญ๋า” เพื่อรับของที่ระลึกสุดพิเศษจากชุมชน เป็นอีกหนึ่งสีสันของเทศกาลที่ไม่ควรพลาด เทศกาลนี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน และขยายฐานนักท่องเที่ยวให้กว้างขึ้น ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสัมผัสเสน่ห์แห่งอำเภอสันกำแพง ตามคำขวัญที่ว่า “ทิวทัศน์ขึ้นชื่อ เลื่องลือคนงาม เขตคามโคนม ชื่นชมหัตถกรรม”

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 13 เมษายนนายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะได้เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดงานเทศกาลสงกรานต์จังหวัดเชียงใหม่ และหากกำหนดการไม่คาดเคลื่อนนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมายังอำเภอสันกำแพงและเข้าเยี่ยมชมงาน “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” ที่นี้อีกด้วย

“หน่อย” นายอัศนี บูรณุปกรณ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กลุ่มเพื่อไทย ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หมายเลข 3 พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เบอร์ 7 – 12 ทั้ง 4 แขวง ได้ถือฤกษ์เอาชัย เวลา 09.00 น. ได้เดินทางไปกราบไหวัสัการะองค์พระครูบาเจ้าศรีวิชัย ณ เชิงดอยสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเมื่อวานนี้ได้ลงสมัครเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือเป็นวันแรกที่จะได้เริ่มการออกหาเสียง หลังกราบไหว้ขอพรได้แยกย้ายกันลงพื้นที่ทันที

“หน่อย” นายอัศนี บูรณุปกรณ์ กล่าวว่า ยืนยันถึงความพร้อมที่จะอาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่นครเชียงใหม่ในนามของ “พรรคเพื่อไทย”  เพื่อสานงานต่อและก่องานเพิ่ม” พัฒนานครเชียงใหม่ในทุกมิติ  “เชียงใหม่ ใหม่กว่าเดิม” เพื่อพี่น้องประชาชนนครเชียงใหม่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมพัฒนาเมืองยังต่อเนื่อง การพัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น “เศรษฐกิจ การศึกษา การบริการสาธารณะ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” โดยจะยึดหลักการเปิดกว้างและโปร่งใสในการบริหารจัดการ พร้อมเร่งดำเนินการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ให้เป็นเมืองที่สมบูรณ์และยั่งยืน เพราะเชียงใหม่ไม่ได้เป็นแค่เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเท่านั้น ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาสในการพัฒนาและเติบโต “เราจะไม่หยุดนิ่งในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับเชียงใหม่” มุ่งมั่นที่จะทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีความทันสมัย ควบคู่กับการรักษาความเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงาม เพื่อให้ “เชียงใหม่ใหม่เสมอ” ในทุกยุคทุกสมัย

ผมมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะขออาสาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้พี่น้องประชาชนต่อ  โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนาม “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้ทำงานพัฒนาเมืองเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเล็งเห็นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นหลักตลอดมา ผมเชื่อมั่นว่าการประสานงานกับทางอบจ.เชียงใหม่และส่งเสริมจากรัฐบาล ในนาม “พรรคเพื่อไทย” เพื่อส่งเสริมผลักดันและแก้ไขในปัญหาต่างๆ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

ทั้งนี้พร้อมกลับมาทำงาน ผมขออาสารับใช้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง ผมจะทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างสุดความสามารถ เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ที่ผมตั้งใจไว้ให้เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อสร้างอนาคตให้ดียิ่งขึ้น  ตามวิสัยทัศน์ของผมที่ว่า  “เชียงใหม่ใหม่เสมอ” เพราะเมืองเชียงใหม่ไม่เคยหยุดนิ่ง วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะพัฒนาเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม นายอัศนี กล่าว

ขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ทุกท่านสนับสนุนการร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้กับจังหวัดเชียงใหม่ของเรา ด้วยการเลือก “พรรคเพื่อไทย” ในเขตการเลือกตั้งทั้ง 4 เขตยกทีม พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครชาวเชียงใหม่ ร่วมกันแสดงพลังออกมาใช้สิทธิ์ ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ในวันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้.

นายนพดล สุยะ ผอ.กกต.เชียงใหม่ สรุปจำนวนวันแรกของการเปิดรับสมัครเทศบาล จำนวน 121 แห่ง รายงานการรับสมัครวันที่ 31 มีนาคม 2568 ผู้สมัคร นายกเทศมนตรี จำนวน 219 ราย และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล จำนวน 3178 ราย รวม 3397 ราย

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ภายใต้แบรนด์ “KC” ยืนยันว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศพม่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยโรงงานสามารถดำเนินงานและส่งมอบสินค้าได้ตามปกติ

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด และตระหนักถึงผลกระทบรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย แม้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงแต่ในฐานะภาคธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม จึงขอมีส่วนร่วมในการส่งมอบความช่วยเหลือและกำลังใจแก่เพื่อนบ้านของเราในยามวิกฤต และได้ร่วมมือกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และ บริษัท เอคเซลเล็นซี ออโต้ บิซิเนส จำกัด จัดส่งผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง ขนาด 12 ออนซ์ จำนวน 4,800 กระป๋อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในประเทศพม่า โดย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักกับหน่วยงานทางการของประเทศพม่า เพื่อจัดการด้านการลำเลียงและกระจายสิ่งของบริจาคไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม SUN ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เกื้อกูล พร้อมร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง