ผู้เขียน: sirapress

ชาวสวนส้มชวนส่งสุขปีใหม่ด้วยส้มสายน้ำผึ้งGI อ.ฝาง

นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมพืชGI ส้มสายน้ำผึ้งฝาง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สินค้าอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นในส้มสายน้ำผึ้งฝาง ณ ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่

เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “ ส้ม”เป็นผลไม้ที่สื่อถึงความมงคล และมีประโยชน์ต่อร่างกาย รสชาติดี หาซื้อได้ง่ายทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ไทย,ปีใหม่จีนหรือตรุษจีน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นแหล่งผลิตส้มคุณภาพที่สำคัญเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ปีการผลิตที่ผ่านมาสามารถสร้างมูลค่าแก่จังหวัดได้ประมาณ 4,320 ล้านบาท นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่ที่สำคัญชนิดหนึ่งของจังหวัด ที่มีพื้นที่การผลิต 34,899 ไร่ พันธุ์ที่นิยมปลูกคือพันธุ์สายน้ำผึ้ง ซึ่งมีปลูกมากที่อำเภอฝาง แม่อาย คาดว่าปีนี้จะมีผลผลิตส้มออกสู่ตลาดประมาณ 137,880 ตัน โดยจะให้ผลผลิตในช่วงเดือนกันยายนถึงเมษายน ออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือนธันวาคม ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลปีใหม่ของไทย

กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ คำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยทั้งระบบการผลิต จึงดำเนินการส่งเสริมการผลิตส้มปลอดภัยแก่เกษตรกรโดยใช้ระบบการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ ตั้งเป้าให้เกษตรกรได้GAPทุกราย โดยมีการบริหารจัดการครบวงจร รวมถึงต่อยอดการท่องเที่ยว และจากการดำเนินโครงการส่งเสริมพืชอัตลักษณ์ประจำถิ่นจนกระทั่งพบว่า “ส้มสายน้ำผึ้งฝาง” มีลักษณะเฉพาะถิ่น คือ เปลือกบางล่อน ไหล่ยกคือขั้วผลเสมอกับไหล่ ลักษณะทรงผลกว้างมากกว่าความยาวจนทำให้เห็นลักษณะกลมแป้น เมื่อสุกมีสีเหลืองอมส้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว ชานในนิ่ม มีกลิ่นหอม เปลือกบางล่อน มีต่อมน้ำมันบริเวณผิวเด่นชัด ผิวเรียบเป็นมันเงา ซึ่งมีผลมาจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่สูง อุณหภูมิของอากาศระหว่างกลางวันและกลางคืนมีความแตกต่างกันมากกว่า 10 องศาเซลเซียส จึงทำให้เกิดการพัฒนาของสารสีแคโรทีนอยด์ เป็นสารสีส้ม อีกทั้งพบได้ในแถบในพื้นที่ 3 อำเภอ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอไชยปราการเท่านั้น อีกทั้งพบว่ามีธารน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและทำให้รสชาติของส้มสายน้ำผึ้งฝางหอมหวานทำให้เป็นที่นิยมแก่ผู้บริโภคจึงขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งขี้ทางภูมิศาสตร์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาในนามชนิดสินค้า “ส้มสายน้ำผึ้งฝาง”(Som Sai Nam Phueng Fang หรือ Mandarin orange Sai Nam Phueng Fang)

เกษตรอำเภอฝาง นายประเสริฐ พรหมวรรณ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าอำเภอฝาง มีพื้นที่ปลูกส้ม 16,969 ไร่ เกษตรกร 1,455 ครัวเรือน ผลผลิตเฉลี่ย 4,500 กิโลกรัม/ไร่ ผลผลิตรวม 69,881 ตัน ผลผลิตออกสู่ผู้บริโภคระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้ต้นฤดูกาลราคาอยู่ที่30บาทต่อกิโลกรัม อำภอฝางดำเนินการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ส้มโดยมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้บริหารจัดการ 3 กลุ่มในพื้นที่ ดังนายคเณศ หน่อราช ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ที่ดำเนินกิจกรรมครบวงจรจนกระทั่งสามารถการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลผลิตบริหารจัดการกลุ่ม บริหารจัดการตลาด โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอและหน่วยงานบูรณาการเป็นพี่เลี้ยง จนทำให้ส้มสายน้ำผึ้งฝางเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอน กรมทรัพย์สินปัญญาตรวจสอบ ประกาศโฆษณาขึ้นทะเบียนสัญลักษณ์ GI ซึ่งจะเกิดประโยชน์เป็นรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น คุ้มครองผู้บริโภคที่จะได้บริโภคสินค้าที่คุณภาพ และการเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้ผู้ผลิต จนกระทั่งยกระดับเป็นอุตสาหกรรมท้องถิ่นช่วยกระจายรายได้สู่ชนบทสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

และห้วงเวลาเทศกาลแห่งความสุขในปีใหม่ปีมังกรนี้เป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่จะได้อุดหนุนส้มสายน้ำผึ้งฝาง เป็นทั้งของขวัญของฝากที่มีความหมายมงคลและมีประโยชน์แก่ผู้ที่ได้รับ และหนึ่งปีท่านจะได้บริโภคเพียงครั้งเดียว หากท่านใดสนใจสามารถตอดต่อสอบถามได้ที่นายคเณศ หน่อราช แปลงใหญ่ หมายเลขโทรศัพท์0843781900คุณเดือน0893293615

 

เชียงใหม่ เช้านี้ ยอดดอยอินทนนท์เกิดน้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบแรกของปี 6 องศายอดดอยและกิ่วแม่ปาน

รับเทศกาลยี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ อุณหภูมิเช้าวันนี้ ในตัวเมืองอากาศหนาววัดได้ 17 -18 องศาเซลเซียส ส่วนหลายพื้นที่ตามบนดอย พื้นที่สูงอุณหภูมิลดลงไปต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ไอหนาวความหนาวเย็นกลับมาต่อเนื่อง เช่นเดียวกับเช้าวันนี้ ยอดดอยอินทนนท์ เกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบแรกของปีขึ้น บริเวณสนามหญ้าลาดจอดรถ เกล็ดน้ำแข็งสีขาวเกาะอยู่ใบหญ้าสะท้อนกับแสงพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นมาแวววาว สวยงาม ซึ่งอุณหภูมิเช้าวันนี้ ยอดดอย วัดได้ 6 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับจุดชมแสงแรกเช็คอินยามเช้า กิ่วแม่ปานวัดได้ 6 องศาเซลเซียสเท่ากัน แต่จุดนี้แสงเช้าวันนี้เป็นสีทองอร่ามไปทั่วท้องฟ้า มาพร้อมทะเลหมอก ขณะที่ที่สำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. 31 วัดได้ 11 องศาเซลเซียส ใก้ลจะลงมาเหลือเพียงเลขตัวเดียวแล้ว

สถิตินักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 1,940 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1,152 คน ยอดรวมจำนวน 3,092 คน ยาพาหนะ 629 คัน

นาทีชีวิตผาเมือง จัด ฮ.ท.145 บินด่วนช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน นำส่ง รพ.นครพิงค์

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 66 เวลา 11.50 กองกำลังผาเมือง โดย ชุดปฏิบัติการบินทหารบก กองกำลังผาเมือง จัด ฮ.ท.145 จำนวน 1 เครื่อง สนับสนุนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รับผู้ป่วยฉุกเฉินทางอากาศ เพศชาย อายุ 63 ปี มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายชนิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน จาก โรงพยาบาลไชยปราการ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลต่อที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม ใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที (ถ้าลำเลียงทางรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) ปัจจุบันผู้ป่วยได้ถึงมือทีมแพทย์อย่างปลอดภัย

เที่ยวบินประวัติศาสตร์เวียตเจ็ทบินตรง โฮจิมินห์ซิตี้ สู่ เพิร์ธ และแอดิเลด พร้อมเสนอตั๋วฯ ราคาพิเศษทุกเส้นทาง ถึง 28 พ.ย.

สายการบินเวียตเจ็ท (VJ) เริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่าง โฮจิมินห์ซิตี้ ไปยัง เพิร์ธ และแอดิเลด เดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นทางบินจากเวียดนามไปยังออสเตรเลีย เที่ยวบินดังกล่าวทำให้เวียตเจ็ทขึ้นแท่นเป็นสายการบินสัญชาติเวียดนามรายแรกที่บินไปยังออสเตรเลียใต้และออสเตรเลียตะวันตก Rita Saffioti รองผู้ว่าการรัฐออสเตรเลียตะวันตกเลีย Zoe Bettison รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของรัฐออสเตรเลียใต้ และผู้บริหารท่าอากาศยานเพิร์ธและท่าอากาศยานแอดิเลด ร่วมแสดงความยินดีกับเวียตเจ็ทในโอกาสเปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่

การขยายเครือข่ายเส้นทางบินไปยังแอดิเลดและเพิร์ธช่วยให้เวียตเจ็ทขยายขีดสมรรถนะการให้บริการเส้นทางบินระหว่างเวียดนามและออสเตรเลียมากกว่าสองเท่า โดยมีจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการระหว่างสองประเทศรวมถึง 58 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นับตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นสายการบินที่มีจำนวนเที่ยวบินระหว่างเวียดนามและออสเตรเลียมากที่สุด ทั้งนี้ ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการด้านการขนส่งทางอากาศในตลาดออสเตรเลียในเดือนเมษายน 2566 เวียตเจ็ทประสบความสำเร็จในการให้บริการสู่เมืองสำคัญของออสเตรเลียรวมถึง 5 เมือง ได้แก่ แอดิเลด บริสเบน เมลเบิร์น เพิร์ธ และซิดนีย์

 

เส้นทางบินใหม่ของเวียตเจ็ทซึ่งมีเที่ยวบินไป-กลับ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ในออสเตรเลียและเวียดนาม รวมทั้งเชื่อมต่อการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ทั้งในเวียดนามเองและทั่วทั้งเอเชีย อาทิ อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก ฯลฯ

 

เพื่อเฉลิมฉลองการให้บริการเส้นทางบินใหม่ เวียตเจ็ทเสนอโปรโมชั่นพิเศษ เริ่มต้นเพียง 0 ดอลลาร์สหรัฐ (*) สำหรับเส้นทางบินภายในประเทศเวียดนามและระหว่างประเทศทุกเส้นทางบิน สำรองบัตรโดยสารได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com หรือแอปพลิเคชั่น ‘Vietjet Air’เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2024 (**)

 

สายการบินเวียตเจ็ทมีความภูมิใจที่ได้ต้อนรับผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่สะดวกสบาย ซึ่งให้บริการด้วยเครื่องบินที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับอาหารสดใหม่สูตรต้นตำรับและบริการจากลูกเรือมืออาชีพ พร้อมกันนี้ ผู้โดยสารที่เดินทางบนเที่ยวบินของเวียตเจ็ทจะได้รับประกันภัยการเดินทาง ‘Sky Care’ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถเข้าร่วมโปรแกรมสะสมคะแนน ‘SkyJoy’ เพื่อรับคะแนนสะสมสำหรับแลกรับของขวัญสุดพิเศษ

(*) ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม 

(**) เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด

พระจันทร์เต็มดวงล่อใจนักท่องเที่ยวแห่ชมความสวยงามหนองบัวพระเจ้าหลวง ดอยสะเก็ด

บรรยากาศตั้งแตช่วงเย็น ของประเพณียี่งเป็ง ในเทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางประทีป ปี 66″ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ถึง 30 พฤศจิกายน 2566 ณ หนองบัวพระเจ้าหลวง ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มแล้วค่ำคืนแรก นักท่องเที่ยวในพื้นที่ อำเภอใกล้เคียง นักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดและต่างชาติ จำนวนมากพากันเดินทางมาเที่ยวความสวยงามของ อุโมงค์โคมไฟบริเวณทางเข้าศาลาเก้าเหลี่ยม ความยาว 50 เมตร, การตกแต่งศาลาเก้าเหลี่ยมด้วยโคมไฟล้านนาตระการตา และโคมยักษ์, จุดที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและต้องไม่พลากของการรมาถ่ายภาพเซลฟี่ บริเวณหาดทราย ไฮไลท์มีการตกแต่งรูปพระจันทร์เต็มดวง จำลองผลิตจากวัสดุรีไซเคิล และกระทงจำลองทำจากถุงพลาสติกใช้แล้ว ลอยอยู่เหนือน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพเข้าใกล้สัมผัสได้เสมือนดวงจัทร์ลอยอยู่เบื้องหน้า ที่ไม่ต้องมองขึ้นไปบนฟ้า แต่จำลองมาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมแสงจันทร์เสมือนจริง

อีกหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบของการปล่อยโคมลอย ในยามค่ำ ซึ่งจุดนี้สามารถปล่อยได้หลังจากได้รับอนุญาตจากอำเภอดอยสะเก็ด ขณะดียวจะมีเจ้าหน้าที่ค่อยนะนำแก่นักท่องเที่ยววิธีการปล่อยโคมที่ถูกต้อง

ยอดดอยอินทนนท์และกิ่วแม่ปานครั้งแรกลดเหลือเพียงแรกตัวเดียวหลังประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว การซื้อบัตรผ่านค่าบริการของนักท่องเที่ยว ผ่านช่วงทางออนไลน์ที่แอพพลิเคชั่น QueQ และQRCODE สแกนผ่านด่านเข้าท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาลงจากรถมารอเข้าคิวซื้อ เพียงแสดงQRCODE สแกนใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเดินทางเข้าเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย

ส่วนสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงหนาวเย็นต่อเนื่องในช่วงเช้า จะสายลมไอหนาวพัดมากระทบร่างกายให้ได้สัมผัสไปจนถึงช่วงสาย ค่อยอุ่นขึ้นและร้อนในห้วงบ่าย จนกระทั่งช่วง่ำไอหนาวเริ่มกลับมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับวันนี้ที่ยอดดอยอินทนนท์ ต่ำวัดได้ 7 องศาเซลเซียส จุดเช็คอินชมแสงแรกทะเลหมอกกิ่วแม่ปานวัดได้ 9องศาเซลเซียส เป็นครั้งแรกที่ 2 จุดนี้เหลือเพียงเลขตัวเดียวหลังจากประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวของไทย ส่วนที่การอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม 31 วัดได้ 14 องศาเซลเซียสกำลังเย็นสบายๆ แต่นักท่องเที่ยวเดินทางจากต่างจังหวัดเชียงใหม่จะบอกว่าอากาศหนาวมากของจังหวัดเชียงใหม่ สถิตินักท่องเที่ยวสะสมจากเมื่อวานนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 3,984 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1,031 คน ยอดรวมจำนวน 5,015 คน ยานพาหนะ 1,027 คัน

วันนี้พาไปฟังเสียงของนักท่องเที่ยวที่ได้รับความสะดวกจากการซื้อบัตรผ่านค่าบริการ ผ่านช่วงทางออนไลน์ที่แอพพลิเคชั่น QueQ และQRCODE สแกนผ่านด่านเข้าท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาลงจากรถมารอเข้าคิวซื้อ เพียงแสดงQRCODE สแกนใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเดินทางเข้าเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย

เชียงใหม่ หากก้าวไกลส่ง“สท.ชานนธ์ พร้อมลง สจ.ในนามพรรค

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นายชานนธ์ ประมวญพิสุทธิ์ หรือ สท.ชานนธ์ ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล และเสนอตัวเป็นตัวแทนพรรคเพื่อลงสมัครเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเชียงใหม่ (สจ.)ในนามพรรคก้าวไกล หลังจากเคยเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ มาก่อนหน้านั้น

ซึ่งหากคณะกรรมการสรรหาของพรรคพิจารณาเลือกและมีมติส่งสมัคร นายชานนธ์ฯ กล่าวว่ามีความตั้งใจและพร้อมที่จะทำงานให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่(โดยเฉพาะเขต ต.เเม่เหียะ ต.สุเทพ) เนื่องจากมีภูมิลำเนาอยู่ในตำบลแม่เหียะ และมีความคุ้นเคยกับผู้นำท้องถิ่นตลอดจนประชาชน ทั้งในตำบลแม่เหียะกับตำบลสุเทพซึ่งเป็นตำบลใกล้เคียงกันมายาวนาน ประกอบกับเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาเทศบาลและสมาชิกสภาเทศบาล(สท.)แม่เหียะมาก่อน

ในส่วนของนโยบายนั้น สท.ชานนธ์ กล่าวว่า ต้องดูนโยบายพรรคก่อนเพราะมีนโยบายสำคัญๆอาทิเช่น

– การสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ถูก ทั่วถึง สำหรับทุกคน

– การบริหารที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ปลอดคอรัปชั่น

– การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การมีน้ำประปาใสสะอาด ไหลแรง ดื่มได้

– พัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อการกีฬา การเรียนรู้ และการทำกิจกรรมร่วมกันในชุมชน

– การศึกษาที่ฟรีและมีคุณภาพ เพื่อสร้างประชากรรุ่นต่อไปที่มีอนาคต

– สิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการขยะที่มีมาตรฐานเทียบเท่ายุโรปและญี่ปุ่น

– ระบบสาธารณสุขที่สามารถรับมือกับสังคมสูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยียกระดับการบริการ

และจากประสบการณ์การเมืองท้องถิ่น สท.ชานนธ์ กล่าวต่อว่า ยังมีนโยบายส่วนตัวที่จะทำประโยชน์ให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่หลายนโยบายด้วยกัน เช่น

-นโยบายส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มสตรีแม่บ้าน

-นโยบายที่เกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์

-นโยบายดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ

-นโยบายส่งเสริมความสะอาดของท้องถิ่นเพื่อให้สอดคล้องกับ ”เชียงใหม่เมืองงาม”

-นโยบายทำตำบลแม่เหียะและสุเทพ ให้เป็น “สิงคโปร์เมืองไทย”เป็นต้น

ประวัติส่วนตัว :

นายชานนธ์ฯ จบการศึกษา ปริญญาตรีและปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต ม.รามคำแหง

อาชีพ:ทนายความ

-เป็นอดีตประธานชมรมทนายความ จ.เชียงใหม่

-เป็นอดีตประธานฝ่ายกีฬาตะกร้อ สมาคมกีฬา จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.40พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ กรณี เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 1530 กองร้อยทหารพรานที่ 3203 กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3342 ปะทะกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด บริเวณ บ้านปางแสนเครือ ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 24 ขวด น้ำหนักรวม 528 กรัม

เมื่อเวลา 18.00 ของวันเดียวกัน กองร้อยทหารพรานที่ 3206 กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ปะทะกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติด บริเวณ บ้านนามะอื้น ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 530,000 เม็ด โดยได้ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติด ทั้ง 2 เหตุการณ์ ณ ฐานปฏิบัติการกิ่วฮุง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

ชลประทานเชียงใหม่พร้อมรับมือปัญหาภัยแล้ง เร่งจัดตั้งกลุ่มบริหารการใช้น้ำอ่างเก็บน้ำห้วยทราย หลังกลุ่มเดิมหมดวาระไปกว่า 5 ปี

นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายณรงค์ วงศ์จันทร์ทิพย์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการชลประทานเชียงใหม่ ประชุมจัดตั้งกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทาน อ่างเก็บน้ำห้วยทราย ตำบลเขื่อนผาก อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสุพนธ์ เทพหมี นายช่างชลประทาน เป็นตัวแทนหัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 พร้อมด้วยนายเขมราษฎ์ สุปินะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ เป็นตัวแทนจัดการประชุม ซึ่งมี นายชูศักดิ์ เสโตบล นายก อบต.เขื่อนผาก และนายณรงค์ แก้วใส กำนันตำบลเขื่อนผาก พร้อมด้วยกลุ่มผู้ใช้น้ำและประชาชนในพื้นที่ จำนวน 74 คน เข้าร่วมการประชุมและจัดตั้งคณะกรรมกลุ่มผู้ใช้น้ำในครั้งนี้ ณ หอประชุมบ้านทรายทอง หมู่ที่ 7 ตำบลเขื่อนผาก อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการคัดเลือกตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำทั้งหมด 22 สาย พร้อมทั้งให้มีการโหวตเลือกประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำคนใหม่ พร้อมคณะกรรมการ แทนชุดเดิมที่หมดวาระ ภายหลังการประชุม ทางกลุ่มผู้ใช้น้ำได้มีการร้องขอให้ทางชลประทานปรับปรุงท่อส่งน้ำตามคลองสายต่างๆ ซึ่งทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้รับฟังและให้คำแนะนำกับกลุ่มผู้ใช้น้ำและประชาชนในพื้นที่ถึงแนวทางการปรับปรุงและการเตรียมช่วยเหลือในอนาคต

นอกจากนี้ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้ประชาสัมพันธ์ให้คณะกรรมการกลุ่มผู้ใช้น้ำ รวมทั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำที่มาเข้าร่วมในวันนี้ใช้น้ำอย่างประหยัด เนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยทราย มีความจุอ่างเก็บน้ำ 300,000 ลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่การเกษตร จำนวน 1,394 ไร่ กลุ่มผู้ใช้น้ำจำนวน 138 ราย มีเส้นทางส่งน้ำทั้งหมด 22 เส้น ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบปัญหาสภาวะภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงที่กลุ่มผู้ใช้น้ำหมดวาระไปตั้งแต่ปี 61 ทำให้เกิดการว่างเว้นของการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และทางอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้คาดการณ์ว่าจะเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ่ ทำให้มีภัยแล้งเกิดขึ้น ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ จึงได้เร่งป้องกันปัญหาดังกล่าว ในวันนี้ได้มีการคัดเลือกประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำกลุ่มใหม่แทนกลุ่มเดิมที่หมดวาระไป ก็เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ด้วยการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพด้วยคณะกรรมการชุดใหม่นี้