เชียงใหม่ จัดเวทีสร้างการรับรู้และส่งเสริมเครือข่ายองค์กร”การตอบแทนคุณระบบนิเวศ (PES)”

 

เชียงใหม่ จัดเวทีสร้างการรับรู้และส่งเสริมเครือข่ายองค์กร”การตอบแทนคุณระบบนิเวศ (PES)”เพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการไฟป่า มีผู้เข้าร่วมกว่า 90 คน จากชุมชน 17 แห่ง ภาคธุรกิจ 22 องค์กร และผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ ภาค ประชาสังคม ภาควิชาการ มีส่วนร่วมในการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นผู้ทำหน้าที่อนุรักษ์ เพื่อสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ

ณ โรงแรมอโมร่าท่าแพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจาก ฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO ร่วมกับ มูลนิธิรักษ์ไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงใหม่ ประธานเปิดงานและบรรยายพิเศษ เรื่อง “สาน พลังภาคี กุญแจสำคัญในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการจัดการไฟป่า” และบรรยายพิเศษเกี่ยวกับการสร้างความ ร่วมมือในการหนุนเสริมชุมชนท้องถิ่น ในการอนุรักษ์ความหลาก หลายทางชีวภาพตามหลักการร PES พร้อมด้วย นายสุวีร์ งานดี – รองผู้ อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) นาย พร้อมบุญ พานิชภักดิ์ – เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย อาจารย์ไพสิฐ พาณิชย์กุล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกฎหมาย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และบทบาทภาคธุรกิจเอกชนกับการหนุนเสริมชุมชนท้องถิ่น โดย นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารส่วน งานเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย และเวทีเสวนาแลก เปลี่ยนประสบการณ์ และบทเรียนการทำงานด้านการอนุรักษ์ความ หลากหลากยทางชีวภาพและการจัดการไฟป่า โดยวิทยากรจาก ชุมชนท้องถิ่น นักวิชาการ ภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชา สังคม และสื่อมวลชน มีผู้เข้าร่วมกว่า 90 คน จากชุมชน 17 แห่ง ภาคธุรกิจ 22 องค์กร าที่อนุรักษ์ เพื่อสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ

PES เพื่อความร่วมมือในการอนุรักษ์ป่า Payment for Ecosystem Services หรือ PES คือ การสร้างกลไกให้ผู้ได้ รับประโยชน์จากระบบนิเวศ มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดูแล และ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นผู้ ปกป้อง ดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติ โดยเวทีสัมมนาครั้งนี้จะเป็น พื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ และแนวทางความ ร่วมมือ จากหลากหลายภาคส่วนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาแนวทางการ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนร่วมกัน

ตม.เชียงใหม่ จับหนุ่มตุรกี OVERSTAY 233 วัน

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 25 ก.พ.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.สุเทพ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติตุรกี จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (233 วัน)” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป

โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.67 โดยการยกเว้นการตรวจลงตรา (ผ.30) ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ได้มายื่นขออยู่ต่อและได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 แต่หลังจากครบกำหนดอนุญาตแล้ว ก็ไม่ได้ขออยู่ต่อฯ และไม่ได้เดินทางออกแต่อย่างใด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ สืบสวนติดตามจับกุมได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

 หนีกบดานในไทยกว่า 25 ปี ตม.เชียงใหม่ จับหนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษ อยู่เกินวีซ่า

 

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดย พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จ.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น  เมื่อวันที่ 24 ก.พ.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จ.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จ.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถนนระแกง ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัด.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติบริติช จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (9,135 วัน)” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป


โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.43 โดยการยกเว้นการตรวจลงตรา (ผ.30) ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยพักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร 13 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นระยะเวลา 12 ปี และได้ทหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ สืบสวนติดตามจับกุมได้ในที่สุด
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

กลับมาแล้ว กาดดาราเทวี บูรณาการความร่วมมือระหว่าง เทศบาลตำบลท่าศาลา และดาราเทวี เชียงใหม่

กลับมาแล้ว กาดดาราเทวี บูรณาการความร่วมมือระหว่าง เทศบาลตำบลท่าศาลา และดาราเทวี เชียงใหม่ พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สัมผัสเสน่ห์แห่งอารยธรรมและสถาปัตยกรรมล้านนา หวังกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

ที่ กาดดาราเทวี ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “กาดดาราเทวี” พร้อมด้วย นายจำรัส คำราพิศ นายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา นายสุพรรณ เศษธะพานิช ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม เอสเตท ดาราเทวี จำกัด พร้อมทั้งส่วนราชการภาครัฐและเอกชน แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โครงการ “กาดดาราเทวี” เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง เทศบาลตำบลท่าศาลา และดาราเทวี เชียงใหม่ เพื่อพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งใหม่ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ล้านนาแบบดั้งเดิม โดยมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นเมือง การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จัดสัปดาห์สุดท้ายของทุกเดือน วันศุกร์ เสาร์ และอาาทิตย์
เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นและชุมชนให้มีพื้นที่นำเสนอผลงานและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน และยังเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่ผสมผสานเสน่ห์ของวัฒนธรรมล้านนาเข้ากับความร่วมสมัย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การแสดงทางวัฒนธรรม การออกร้านของชุมชน และกิจกรรมสาธิตศิลปะพื้นบ้าน ซึ่งสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

ทั้งนี้ ผู้จัดงานหวังว่า “กาดดาราเทวี” จะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้และศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่จังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืน

ตม.เชียงใหม่ ลุยจับต่างด้าว OVERSTAY กว่า 9 เดือน

พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5 สั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างฯ กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาช ซึ่งตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2523 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น วันที่ 21 ก.พ.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.หนองหอย อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (275 วัน)” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป

โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว แต่เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5

320 1755

จับรายวัน ตม.เชียงใหม่ รวบ 8 ต่างด้าว “หลบหนีเข้าเมือง-จำหน่ายยาเสพติด”

พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างฯ กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 20 ก.พ.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวนปราบปราม บูรณาการร่วมกับ สภ.สันทราย และกก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่ อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 8 ราย แบ่งเป็น

– ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน 6 ราย

– ข้อหา “จำหน่ายโดยการจ่ายหรือแจกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดประเภท 2 (ฝิ่น) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน 2 ราย

ผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้ง 6 ราย ให้การรับสารภาพว่า ตนได้หลบหนีออกจากประเทศเมียนมา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อมาหางานทำในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนผู้ต้องหาชาวเมียนมาอีก 2 รายนั้น เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับ จึงได้วางแผนติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง คือ ยาบ้าและฝิ่น จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย เพื่อดำเนินคดี

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่

ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ จับกุมนายจ้างคนไทยและคนต่างด้าวลักลอบทำงาน

 

 พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างฯ กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน

 

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวนปราบปราม บูรณาการร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.บ้านแหวน        อ.หางดง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 2 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง และลักษณะงานที่ทำ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เข้าทำงาน” และนายจ้างสัญชาติไทย จำนวน 1 ราย ข้อหา “จ้างคนต่างด้าวทำงานไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบชื่อและสัญชาติของคนต่างด้าวและลักษณะงานที่ให้ทำภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่จ้าง”อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2561 (ฉบับที่ 2) มาตรา 8

 

ผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า ตนได้มาทำงานที่ร้านแห่งนี้ได้ประมาณ      2 เดือนเศษ โดยได้รับค่าจ้างวันละ 400 บาท ส่วนนายจ้างชาวไทยให้การยอมรับว่า ได้ว่าจ้างให้ชาวเมียนมาทั้ง 2 ราย มาทำงานเป็นกรรมกรทั่วไป ซึ่งตนเป็นผู้ดูแลและควบคุมการทำงาน โดยไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

 

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่

 

ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์0 5320 1755

เชียงใหม่ ตม.เชียงใหม่ จับ 2 นายจ้างและลูกจ้างต่างด้าว ผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง

เชียงใหม่ ตม.เชียงใหม่ จับ 2 นายจ้างและลูกจ้างต่างด้าว ผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เข้มงวดในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือ และผู้ร่วมขบวนการจนถึงที่สุด

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปรามฯ บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานความมั่นคงภายในพื้นที่ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 และตำรวจท่องเที่ยว ออกตรวจสถานประกอบการร้านคาราโอเกะ ในเขตอำเภอสันกำแพง ผลการตรวจสอบ จับกุม นายจ้างสัญชาติไทย จำนวน 2 ราย ข้อหา “เป็นนายจ้างให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิ์ที่จะทำได้” และคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 6 ราย แบ่งเป็น ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตฯ” จำนวน 5 ราย และข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรฯ” จำนวน 1 ราย

คนต่างด้าวทั้งหมดได้เข้ามาทำงานเป็นพนักงานในร้านเป็นระยะเวลา 1 – 2 เดือน โดยได้รับค่าจ้าง 200 – 300 บาท ต่อวัน ซึ่งไม่มีการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ผอ.ปปส.ภาค 5 เผยว่าไฟป่าเขตเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนไม่ช่วยให้การผลิตและลำเลียงยาเสพติดลดลง

นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 หรือ ปปส.ภาค 5 กล่าวว่าจากสถานกรณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ หลายจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่ติดกับชายแดนเพื่อนบ้าน อาจมองว่าใกล้แหล่งผลิตยาเสพติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไฟป่า และการเผาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามในแนวชายแดนตลอดจนในเขตเพื่อนบ้านของไทย ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตยาเสพติด เนื่องจากพื้นที่โรงงานผลิตยาเสพติดใหญ่ๆจะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากมีสารเคมีเป็นวัตถุไวไฟ อันตรายต้องจัดพื้นที่ปลอดภัยมากที่สุด มีการป้องกันดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งตามแนวชายแดนอาจจะมีเป็นแหล่งปั้มยาเสพติดหลังจากผลิตสารตั้งต้น หัวเชื่อยาบ้า หัวเชื่อยาไอซ์ จะอยู่ตอนในห่างจากแนวชายแดน แล้วนำมาตอกอัดเป็นเม็ดตามจุดต่างๆ อาจจะใช้เครื่องจักรขนาดเล็กที่สามารถขนย้ายหนีได้ง่ายหากเกิดไฟป่าขึ้นมา มักจะใช้พื้นที่ไม่เป็นอันตรายต่อการอัดผลิตยาเสพติด ซึ่งจะเห็นยังมีการลักลอบนำเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการสกัดกั้นตรวจจับของเจ้าหน้าที่ทหารตามแนวชายแดน


อย่างไรก็ตามช่วงหลังการผลิตยาเสพติดมักนำไอซ์ เป็นผสมกับส่วนต่างๆ และสีให้ออกมาเป็นยาบ้า ซึ่งแหล่งผลิตหรือโรงงานหลักๆ ต้องใกล้แหล่งน้ำ นำมาใช้การผลิตยาเสพติดตลอดจนการอุปโภคและบริโภคของ กลุ่มคนผลิตยาเสพติด จากชายแดนไทย อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮองสอน ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งผลิตยาเสพติด แต่จากการข่าวพบว่าจะอยู่แถวเมืองน้ำจาง ใกล้เมืองตองจี เชื่อว่าโรงงานผลิตใหญ่ๆ ไม่มีใกล้กับตามแนวชายแดนไทย

default

ภาคเอกชนร่วมกัน ระดมทีมสร้างฝันเพื่อน้อง “ศุภาลัย สร้างดี” โรงเรียนบ้านเมืองก๊ะ อำเภอแม่ริม

เชียงใหม่ ภาคเอกชนร่วมกัน ระดมทีมสร้างฝันเพื่อน้อง โรงเรียนบ้านเมืองก๊ะ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการ ศุภาลัย สร้างดี สร้างอาคารอเนกประสงค์ หลังใหม่ ได้ผนึกกำลัง 3 พันธมิตร SCG, WINDSOR และเชียงใหม่สุขสวัสดิ์ จุดประกายโอกาส สร้างการศึกษาที่เท่าเทียม นำร่องโรงเรียนขนาดเล็กเข้าถึงความช่วยเหลือได้น้อย ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนระดับอนุบาล-ประถมศึกษา 61 คน และบุคลากรทางการศึกษา 10 คน

บมจ.ศุภาลัย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมอบโอกาสให้เยาวชนไทยอย่างเท่าเทียม เตรียมสร้างโมเดลพัฒนาโรงเรียนที่ขาดแคลน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาและเติมเต็มโอกาสให้กับเด็ก ๆ อย่างเป็นรูปธรรมภายใต้โครงการ “ศุภาลัย สร้างดี สร้างฝันเพื่อน้อง” นำร่องโรงเรียนขนาดเล็กเข้าถึงความช่วยเหลือได้น้อย โรงเรียนบ้านเมืองก๊ะ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนระดับอนุบาล-ประถมศึกษา 61 คน และบุคลากรทางการศึกษา 10 คน เมื่อทีมงานศุภาลัยลงพื้นที่สำรวจ ได้พบกับความเป็นจริงที่สะเทือนใจ อาคารเรียนที่เก่าโทรม พื้นที่เรียนรู้ที่จำกัด และสภาพความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ขาดแคลนทั้งบุคลากรและปัจจัยพื้นฐาน โมเดลพัฒนานี้จึงเกิดขึ้นเพื่อเข้ามาเติมเต็มและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้พวกเขาได้มีอนาคตที่สดใสกว่าเดิม

หนึ่งในปัญหาเร่งด่วนที่สุดของโรงเรียนบ้านเมืองก๊ะ คือ อาคารอเนกประสงค์ที่อยู่ในสภาพชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากโครงสร้างไม่มั่นคงและเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียน ศุภาลัยจึงเร่งระดมความช่วยเหลือ นำทีมโดย นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ และ นายสายชล ลืมขำ ผู้อำนวยการฝ่ายสายงานโครงการภูมิภาค 4 พร้อมด้วยความร่วมมือจาก 3 พันธมิตร SCG, WINDSOR และเชียงใหม่สุขสวัสดิ์ ร่วมเปลี่ยนพื้นที่ทรุดโทรม สู่ “เฮือนสร้างดี” ให้กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ ที่จะใช้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เติมเต็มจินตนาการ และเรียนรู้ได้อย่างปลอดภัย ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของโรงเรียนเป็นมูลค่า 250,000 บาท นอกจากการปรับปรุงอาคารแล้ว ศุภาลัยยังส่งต่อโอกาสทางการศึกษา จุดประกายความฝันให้กับเด็กๆ ผ่าน “ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนเรียนดี” ประจำปีการศึกษา 2567 ตั้งแต่ระดับอนุบาล-ประถมศึกษา รวม 20 ทุน มูลค่ากว่า 40,000 บาท เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเด็ก ๆ ที่มีความมุ่งมั่นในการเรียนให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพและสามารถต่อยอดความฝันสู่อนาคตที่ดีขึ้น

ความช่วยเหลือจะไม่หยุดเพียงเท่านี้! ศุภาลัยเตรียมวางแผนพัฒนาโมเดลเพื่อการศึกษาในระยะยาว ให้กับโรงเรียนบ้านเมืองก๊ะ และโรงเรียนที่ขาดแคลนแห่งอื่น เพื่อสร้างโอกาสที่ยั่งยืนให้กับเด็ก ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนสื่อการเรียนรู้ และเสริมศักยภาพครูผู้สอน เพื่อให้การศึกษาไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง จากก้าวเล็ก ๆ ในวันนี้ ศุภาลัย รวมถึง 3 พันธมิตรอย่าง SCG, WINDSOR และเชียงใหม่สุขสวัสดิ์ หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ “สร้างฝันเพื่อน้อง” ให้เด็กทุกคนมีโอกาสก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสได้อย่างเท่าเทียม.