ลดพระสงฆ์ สามเณรอาพาธ จากเป็นโรคเบาหวาน ความดัน จัดทำโครงการเกษตรวิถีพุทธ ข้าวปลอดภัย

 

 

เชียงใหม่ ลดพระสงฆ์ สามเณรอาพาธ จากเป็นโรคเบาหวาน ความดัน หันมาจัดทำโครงการเกษตรวิถีพุทธ ปลอดภัย พันธ์ข้าวจ้าว กข.79และ กข.43 ริเริ่มพื้นที่ 12 ไร่ โดยสามเณร 7 รูป เรียนรู้การปลูกข้าวแบบปลอดภัย นำเทคโนโลยีทันสมัย เข้ามาเพาะต้นข้าว ดำนา ดูแล เก็บเกี่ยวข้าว จนถึงการแปรรูป จนเป็นข้าวสาร พร้อมนำไปหุ้งรับประทาน ในปีแรกดำเนินการได้ 9 ตัน นำร่องให้พระและสามเณรกว่า 250 รูป ภายในโรงเรียนฉัน ก่อนจะขยายออกไปตามวัดและโรงเรียนพระปริยัติดอยอำเภอดอยสะเก็ด


พระมหาอินสอน คุณวุฒโฑ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระปริยัติดอยสะเก็ดผดุงศาสน์ และพระอาจารย์วีรดนย์ วีรวุฒฑุโน รักษาการสำนักสงฆ์พัฒนมงคล บ้านหนองบัวพัฒนา ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมสามเณร และญาติโยม ได้ร่วมกันจัดทำโครงการเกษตรวิถีพุทธ เชียงใหม่ ปลูกข้าวสาธุ สุขภาพดี มีบุญ ข้าวปลอดภัย เนื่องจากพระสงฆ์และสามเณร อาพาธจากโรคเบาหวาน และความดัน เพื่อลดการเจ็บป่วย จึงได้เริ่มโครงการดังกล่าวเมื่อปีที่ผ่านมา ได้นำสามเณร 7 รูป เข้าเรียนรู้วิธีการ ปลูกข้าว พันธ์ กข.79และ กข.43 โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยปลดภัย จากสารเคมี ทั้งการปลูกแบบนาปลัง และนาปี ในพื้นที่นาข้าวจำนวน 12 ไร่ ปลูกได้จำนวน 9 ตัน ซึ่งนำมาให้สามเณร จำนวน 250 รูป และพระอาจารย์ ได้ฉัน ซึ่งในปีนี้นาปรังเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม 2568 ส่วนนาปีได้ วางแผนเริ่มเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนตุลาคม กับเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ เพื่อจะผลิตข้าวคุณภาพ ถวายโรงเรียนสามเณร วัด โรงพยาบาลสงฆ์อาพาธ พื้นที่ปลูกประมาณ 50 ไร่ ซึ่งมีโรงเรียนพระปริยัติ ใน 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน มีสามเณรกว่า 5,000 รูป รอข้าวสาร เพื่อเป็นภัตตาหารกลางวัน ในระหว่างการศึกษา


อย่างไรก็ตาม ได้รับความสนใจจากญาติโยมที่เป็นชาวนา เข้าร่วมบุญปลูกข้าวจ้าว กข.79และ กข.43 ให้ความรู้ให้กับชาวนาที่สนใจ โดยสามเรรทั้ง 7 รูป สาธิตทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดประโยชน์ ลดต้นทุน ของการปลูกข้าว ปลอดภัย ส่งผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจากชาวนาในพื้นที่ดอยสะเก็ด ส่วนมากจะปลูกข้าวเหนียว หันกลับมาปลูกข้าวเจ้าคุณภาพ ปลอดภัยและยังสนับสนุนราคาข้าวเปลือกให้ ชาวนามีรายได้เพิ่ม ยังสร้างบุญโดยชาวนาที่เข้าร่วมได้นำข้าวสารและข้าวเปลือก ถวายเข้าโครงการเกษตรวิถีพุทธ ปลอดภัย เพื่อนำข้าวสาร ให้กับพระภิกษุ-สามเณร วัด โรงเรียนชุมชน ในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบ ต่อเนื่องเพื่อความมั่นคงทางอาหาร เป็นข้าวคุณภาพ นุ่ม ดีต่อสุขภาพ ทั้งเด็ก ผู้สูงวัย ผู้ป่วย หากในอนาคดมีผู้เข้าร่วมโครงการมากจนสามรถนำจำหน่ายได้แก่ประชาชนที่สนใจทั่วไปต่อไป


สามารถติดทางเพจ facebook เกษตรวิถีพุทธเชียงใหม่ หรือท่านใดที่สนใจ การศึกษา วิธีการปลูกข้าว แบบทันสมัยเพื่อเรียนรู้ นำไปเพื่อให้เกิดประโยขน์ และผู้ที่สนใจ จะเข้าร่วมโครงการ บุญข้าวสาร ถวายวัด รร.สงฆ์อาพาธ ผู้ด้อยโอกาส หรือเพื่อรับประทานเพื่อสุขภาพ นำไปบริจาค ก็สามารถ ติดต่อ เบอร์โทร 082-886-9641 พระอาจารย์วีรดนย์ วีรวุฒฑุโน

ทหารปรับแผนจัดจิตอาสารณรงค์ร่วมฝ่ายปกครอง รพ.สต.เคาะประตูบ้านงดเผา แจกหน้ากากกลุ่มเปราะบาง

 

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น.ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม พลตรี ชายแดน กฤษณสุวรรณ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 เปิดเผยว่า จากการติดตามรายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จว.ภาคเหนือ ค่าเฉลี่ยสะสม ประจำวันที่ 7 ก.พ. 68 เวลา 0700 ที่ผ่านมา ตรวจพบจุดความร้อน ในพื้นที่ 17 จว.ภาคเหนือ จำนวน 259 จุด สูงสุดที่ จว.ต.ก. จำนวน 36 จุด รองลงมาคือ จว.พ.ช. จำนวน 35 จุด และ จว.ล.ป. จำนวน 30 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นป่าอนุรักษ์ จำนวน 116 จุด รองลงมาคือ ป่าสงวนฯ จำนวน 91 จุด และ เขต สปก. จำนวน 31 จุด

ส่งผลให้ปัจจุบันภาคเหนือมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกินเกณฑ์มมตรฐาน จำนวน 14 จังหวัด สูงสุดที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จว.พ.ล. 61.00 มคก./ลบ.ม. รองลงมาที่ ต.ในเวียง อ.เมือง จว.น.น. 57.80 มคก./ลบ.ม. และ ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จว.อ.น. 53.30 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเริ่มมีผลต่อสุขภาพของประชาชน

ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ได้จัดกำลังพลจิตอาสา ชุดรณรงค์ฯลงพื้นที่ร่วมกับฝ่ายปกครองและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลในการเคาะประตูบ้านรณรงค์ลดการเผาป่าจากประชาชน เนื่องจากปัจจุบันภาคเหนือเริ่มมีอากาศร้อนในตอนกลางวันหากเกิดไฟป่าจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ป่า นอกจากนี้ได้แจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชนเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

 

 

เชียงใหม่ เข้าชั่วโมงเร่งด่วนค่าPM2.5 เพิ่ม พบไฟป่าอำเภอทางใต้ต่อเนื่องเมื่อวาน 6 จุด เช้านี้ 4 จุด

ผู้สื่อข่ารายงาน จากการรายงานข้อมูลศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 (ข้อมูลจาก GISTDA) จังหวัดเชียงใหม่ พบจุดความร้อนรอบเช้าจำนวน 1 จุด ที่อำเภอดอยเต่า 1 จุด และรอบบ่ายจำนวน 4 จุด ที่อำเภอฮอด 3 จุดและอำเภอเวียงแหง 1 จุด รวมกันจำนวน 5 จุด โดยจุดความร้อนจากการสรุปผลในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เพิ่มขึ้นจาก 5 จุด เป็น 6 จุด โดยจุดที่ปรับเพิ่มคือ จุด ณ ตำบลสันกลาง อำเภอสันป่าตอง (ข้อมูลสรุปจาก NASA Firm ส่วนจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 5 ก.พ. 2568 ทั้งหมดจำนวน 60 จุด (ข้อมูลสรุปจาก NASA Firm )


อย่างไรก็ตาม จากการรายงานจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 รอบเช้า (ข้อมูลจาก NASA) จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนจำนวน 4 จุด ที่อำเภอดอยเต่า 2 จุด และอำเภออมก๋อย 2 จุด ซึ่งจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 6 ก.พ. 2568 ทั้งหมดจำนวน 66 จุด )


มาติดตามปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากศูนย์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นรายชั่วโมง ตรวจสอบช่วงเวลา 08.00 ผ่านทาง เว็บไซด์ https://www.cmuccdc.org/ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย จากสถานีเครื่องวัดจำนวน 80 จุด ส่วนการตรววดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบจำนวน 51 จุดตรวจวัด ตั้งแต่ 38 – 112 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดเป็นสีแดง 8 จุดตรวจวัด สีส้ม 43 จุด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีเกินจาก 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 จุด โดยจุดที่ 1. บ้านแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ วัดได้ 112 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจุดที่ 2.รพ.แม่ออน ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ วัดได้ 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ชุมชนวัดเกต ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จุดที่ 6 (Indoor) สำรอง วัดได้ 2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศดีมาก

ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.ส่งอากาศยาน KA -32 สนับสนุนการดับไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย

ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.ส่งอากาศยาน KA -32 สนับสนุนการดับไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัยในพื้นที่จังหวัดตากภายหลังเกิดจุดความร้อนสะสมกว่า1,468 จุดเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 84.19 ขณะที่ชุดรณรงค์ฯเร่งสร้างความรู้กับประชาชนเรื่องห้ามเผาในแต่ละพื้นที่
ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม พลโทกิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์จุดความร้อนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือพบว่าห้วงตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.67-2 ม.ค.68 จังหวัดตากตรวจพบจุดความร้อน จำนวน 1,468 จุดเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 1,236 จุด คิดเป็นร้อยละเพิ่มขึ้น 84.19 และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ตรวจพบค่าเฉลี่ยสะสมสูงสุด 52 มคล/ลบ.ม.มีจำนวนวันเกินเกณฑ์มาตรฐานจำนวน 26 วันเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4 วัน คิดเป็นร้อยละเพิ่มขึ้น 15.38 ถึงแม้นว่าปัจจุบันจังหวัดตากมีประกาศห้ามเผาในที่โล่งเด็ดขาดตั้งแต่ 15 มี.ค.- 30 เม.ย.68 ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ( ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.)จึงร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดอากาศยาน KA -32 สนับสนุนการดับไฟในพื้นที่จังหวัดตาก เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาไฟป่าในพื้นที่ หากมีสถานการณ์เร่งด่วน
สำหรับภารกิจอากาศยานฮ.ปภ.32-04ในวันนี้หลังจากเดินทางไปที่จังหวัดตากได้ปฎิบัติการดับไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย จำนวน 10 เที่ยว ปริมาณน้ำ 30,000 ลิตรขณะที่ชุดปฏิบัติการณรงค์แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ของหน่วยทหารทั้ง 13 หน่วยในพื้นที่ภาคเหนือยังคงลงพื้นที่ตามจุดเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า เพื่อขอความร่วมมือในการรณรงค์ป้องกันไม่ให้ประชาชนในพื้นที่เผาป่าและพื้นที่การเกษตร รวมถึงวางแผนในการร่วมกับชุมชนในการทำแนวกันไฟพื้นที่เสี่ยงที่เกิดไฟป่าซ้ำซากเพื่อป้องกันไฟป่าอย่างต่อเนื่อง

ขนส่งและตร.สกัดรถควันดำเข้าเมืองเชียงใหม่ พ่นห้ามใช้ 5 คัน ควันดำเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด

เชียงใหม่ ขนส่ง และตร. สกัดรถควันดำเข้าเมืองเชียงใหม่ พ่นห้ามใช้ 5 คัน ควันดำเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด


สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานขนส่งสาขาอำเภอแม่แตง สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แตง และสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 5 ตำรวจทางหลวงแม่แตง บูรณาการร่วมกัน ตั้งจุดตรวจสอบ ตรวจจับ ระงับการใช้รถควันดำจนกว่าจะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องปราม มิให้มีรถควันดำเข้ามาในเขตเมือง และลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และดำเนินการตามกฏหมายเกี่ยวกับความผิดตาม พรบ.การขนส่งทางบก และพรบ.รถยนต์ บนถนนเชียงใหม่ – ฝาง บริเวณหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงแม่แตง ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการตรวจรถตามพรบ.การขนส่งทางบก จำนวน 642 คัน พบรถที่กระทำความผิด 15 ราย ออกคำสั่งผู้ตรวจการ จำนวน 17 ราย เปรียบเทียบปรับ จำนวน 14 ราย , ดำเนินการตรวจรถตาม พรบ.รถยนต์ จำนวน 986 คัน พบรถที่กระทำความผิด 31 ราย ออกคำสั่งผู้ตรวจการ จำนวน 17 ราย เปรียบเทียบปรับ จำนวน 14 ราย


จาการการตรวจวัดค่าควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง จำนวน 121 คัน พบรถที่มีค่าควันดำเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด จำนวน 5 คัน เป็นรถบรรทุก จำนวน 2 คัน รถโดยสารประจำทาง 3 คัน ดำเนินการแจ้งข้อหาความผิดทางพินัย พ่นเครื่องหมายห้ามใช้ และแจ้งให้เจ้าของรถดำเนินการแก้ไข ต่อไป

คุณภาพอากาศในเมืองชียงใหม่ 3 จุดเกินมาฐาน ขึ้นอันดับ 15 ของโลกของเมืองมีอากาศแย่สุด

เมื่อวานนี้ จากการรายงานข้อมูลศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 รอบบ่าย (ข้อมูลจาก GISTDA) จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนจำนวน 5 จุด ที่อำเภอดอยเต่า จำนวน 5 จุด ส่วนเช้าวันนี้ รายงานจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568รอบเช้า เวลา 02.14 น. (ข้อมูลจาก NASA) จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนจำนวน 1 จุด พบที่อำเภอดอยเต่า 1 จุด ส่วนจุดความสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 5 ก.พ. 2568 ทั้งหมดจำนวน 60 จุด (ข้อมูลสรุปจาก NASA Firm )


มาติดตามปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเช้าวันนี้ ติดตามการรายงานตรวจสอบข้อมูลเป็นรายชั่วโมง ตรวจสอบช่วงเวลา 08.00 ผ่านทาง เว็บไซด์ https://www.cmuccdc.org/ หรือ ศูนย์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย จากสถานีเครื่องวัด ตรวจวัดค่าฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นรายชั่วโมงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจวัดจำนวน 83 จุด ส่วนการตรววดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบจำนวน 68 จุดตรวจวัด ตั้งแต่ 39 – 132 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดเป็นสีแดง 17 จุดตรวจวัด สีส้ม 66 จุด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีเกินจาก 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวน 4 จุด โดยจุดที่ 1.รพ.สต.บ้านปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 132 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดที่2.รพ.ไชยปราการ ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดที่3.บ้านแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจุดที่4.รพ.สต.บ้านปางเฟือง จ.เชียงใหม่ 101 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ชุมชนวัดเกต ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จุดที่ 6 (Indoor) สำรอง วัดได้ 3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศดีมาก


เช่นดียวกับ เว็บไซด์ air4thai.com รายงานช่วงเวลา 08.00 น. ของวันนี้ จุดตรวจวัดคุณภาพอากาศจำนวน 6 จุด พบว่าในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้ 3 จุดเกินค่ามาตรฐาน พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 มากที่สุด 1.จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อำเภอฮอด ตำบลหางดง อำเภอฮอด วัดได้ 42.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,2.จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 41.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,3.จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 38.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,4.จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 38.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,5. จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ สำนักงานเทศบาลตำบลเมืองนะ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว วัดได้ 32.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและ ,6จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ โรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูล แม่แจ่ม ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่มวัดได้ 29.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร


ขณะเดียวกัน เวลา 08.00 น. ข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของประเทศไทย ผ่านเว็บไซด์ iqair.com ของการจัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก US.AQI แบบเรียวไทม์ ดัชนีคุณภาพอากาศ AQI วัดได้ 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นสีส้ม มีผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือร่างกายอ่อนแอ อยู่อันดับที่ 15 ของโลก ความเข้มข้น PM2.5 วัดได้ 55.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะนี้เป็น 11.1 เท่าของค่าแนวทาง PM2.5 ประจำปีขององค์การอนามัยโลก อันดับจะเปลี่ยนแปลงอันดับได้ตลอดเวลา จากการตรวจวัด

ตม.เชียงใหม่ บุกร้านอาหารจีนรวบต่างด้าวม่มีใบอนุญาตทำงาน จีน 6 เมียนมา 9


พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รรท.ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เข้มงวดในการป้องกันปราบปรามบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือ และผู้ร่วมขบวนการจนถึงที่สุด ซึ่งตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ หรือความผิดตามกฎหมายอื่น.


วันที่ 4 ก.พ.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.หนองควาย อ.หางดง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 9 ราย และสัญชาติจีน จำนวน 6 ราย ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”ผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้ง 9 ราย ให้การรับสารภาพว่าตนได้มาทำงานเป็นพนักงานบริการลูกค้า ที่ร้านแห่งนี้โดยได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่เพิ่งมาเริ่มงานได้เพียง 1 สัปดาห์จึงยังไม่ได้รับค่าจ้าง และยังไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนชาวจีนอีก 6 รายนั้นให้การว่า ได้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา และได้ลักลอบมาเป็นผู้ดูแลร้าน และทำงานเป็นพ่อครัวที่ร้านแห่งนี้ โดยไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด


ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

เริ่มเผาหาของป่า ที่อ.ฮอด ตั้งแต่เช้าหลายจุดค่าฝุ่นPM 2.5 เกินค่ามาตรฐานแดง 8จุด

เชียงใหม่ เริ่มเผาหาของป่า ที่อ.ฮอด ตั้งแต่เช้าหลายจุดค่าฝุ่นPM 2.5 เกินค่ามาตรฐานแดง 8จุด ส้ม 49 จุด

เมื่อวานี้จากการของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 รอบเช้า (ข้อมูลจาก NASA) จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนจำนวน 1 จุด ที่อำเภอ ฮอด 1 จุด และช่วงบ่ายจังหวัดเชียงใหม่ไม่พบจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 2 ก.พ. 2568 ทั้งหมดจำนวน 52 จุด (ข้อมูลสรุปจาก NASA Firm ) ภายหลังได้รับการรายงาน ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานร่วมบูรณาการของเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าบ้านโฮ่ง (หน่วยแม่ยุย) , เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าบ้านโฮ่ง , เจ้าหน้าที่จุดเฝ้าระวัง (แม่ยุย1/แม่ยุย2/ตาลเหนือ) และ เครือข่าย อส.อส.บ้านแม่ยุย และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบ้านตาล เชิงพื้นที่เขตห้ามสัตว์ป่าป่าบ้านโฮ่ง ขอรายงานผลการตรวจสอบจุดความร้อนจากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIiRS (NASA) ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 01.30 น. พบว่าอยู่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าบ้านโฮ่ง ตามที่พบว่าจุดความร้อนเกิดบริเวณป่าแม่ยุย บ้านแม่ยุยหมู่ที่ 7 ในท้องที่ตำบลบ้านตาล อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการดับควบคุมไว้ได้ เริ่มดับไฟป่า เวลา 10.10 น. สามารถ ดับเสร็จ เวลา 15.40 น. พื้นที่เสียหาย 30 ไร่ สาเหตุ หาของป่า ชนิดป่า เบญจพรรณ

มาติดตามปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเช้าวันนี้ ติดตามการรายงานตรวจสอบข้อมูลเป็นรายชั่วโมง ตรวจสอบช่วงเวลา 08.00 ผ่านทาง เว็บไซด์ https://www.cmuccdc.org/ หรือ ศูนย์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย จากสถานีเครื่องวัด ตรวจวัดค่าฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นรายชั่วโมงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจวัดจำนวน 86 จุด ส่วนการตรววดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบจำนวน 57 จุดตรวจวัด ตั้งแต่ 39 – 133 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดเป็นสีแดง 8 จุดตรวจวัด สีส้ม 49 จุด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีเกินจาก 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวน 3 จุด โดยจุดที่ 1.บ้านหัวโท ม. 6 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่133 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดที่2.รร.บ้านคุณแม่ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 108 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจุดที่ 3.บ้านแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ชุมชนวัดเกต ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จุดที่ 6 (Indoor) สำรอง วัดได้ 2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศดีมาก

ช่วงเวลาเดียวกัยน 08.00 น. ข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของประเทศไทย ผ่านเว็บไซด์ iqair.com ของการจัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก US.AQI แบบเรียวไทม์ วัดได้ 116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือร่างกายอ่อนแอ อยู่อันดับที่ 28 ของโลก จะเปลี่ยนแปลงอันดับได้ตลอดเวลา จากการตรวจวัด

ศูนย์แก้ไขไฟป่า ภาค 3 ส่วนหน้าร่วม สบอ.ที่16 เชียงใหม่ ลาดตระเวนร่วมกันพื้นที่ภาคเหนือ

เชียงใหม่ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ส่วนหน้า ร่วมกับ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ วางกำลังลาดตระเวนป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าภาคเหนือ

ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ส่วนหน้า กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี ชายแดน กฤษณสุวรรณ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ร่วมหารือกับ นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ในการปฏิบัติงานด้านการเฝ้าระวัง ลาดตระเวน ป้องกันไฟป่า ตลอดจนประชาสัมพันธ์ร่วมกับชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ควบคุม 14 กลุ่มป่า ครอบคลุมพื้นที่ป่ากว่า 44,708,436 ไร่

โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดกำลังพลร่วม เป็นชุดลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช จำนวน 208 ชุด ปฏิบัติงานในพื้นที่ 16 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ 42 ชุด, แม่ฮ่องสอน 25 ชุด, ตาก 19 ชุด ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าซ้ำซาก รวมไปถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก กำแพงเพชร น่าน ลำพูน อุทัยธานี เชียงราย แพร่ สุโขทัย พะเยา และนครสวรรค์ เริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งการประกอบกำลังร่วมในครั้งนี้ จะเข้าไปช่วยป้องปรามป้องการลักลอบเผาป่า สำรวจจุดความร้อน และดับไฟได้อย่างรวมเร็ว ให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เชียงใหม่ ตรวจโรคHIV แล้วรับคูปองมูลค่า 200 บาทได้ กินซาบู หมูกระทะฟรี

ผู้สื่อข่าวพาไปร้านบิ๊กบิ๊กชาบู 99 สาขาสันติธรรม 1 -2 และคุณเปิ้นหมูกระทะ 219 บุฟเฟ่ต์ชาบูหมูกระทะ – กุ้งแม่น้ำ ย่านสันติธรรม ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมกิจกรรมมูลนิธิแคร์แมท เข้ารับการตรวจสุขภาพฟรีกับบูท Caremat ตรวจหาโรคเชื้อเอชไอวี HIV พร้อมรับคูปอง มูลค่า 200 บาท สามารถใช้บริการรับประทานหมูกระทะ ที่เป็ยแบบบุกับทางร้านี่เข้าร่วมกิจกรรม มีบรรดาลูกค้าที่เดินทางมาเพื่อรับประทานหมูกระทะกับทางร้าน ทราบมีกิจกรรมดังกล่าว ต่างพากันเข้าคิวเข้าร่วมตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ด้วยวิธี PCR Test และตรวจหาเชื้อเอชไอวี HIV ด้วยวิธีเจาะเลือด มีบรรดาผู้ที่สนใจทั้งผู้ชายและผู้หญิง เข้าร่วมตรวจในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหหน้าที่กำหนดรับจำนวน 200 คน อย่างไรก็ตามทางร้านพร้อมร่วมสนับสนุนกิจกรรม เข้าร่วมในครั้งต่อไป ซึ่งจะวนไปตามสาขาต่างๆ


จากการสอบถามผู้เข้าร่วมในครั้งนี้ บอกดีเลยได้ตรวจโรคฟรี แถมได้กินหมูจุ่มฟรี เพราะมากับแฟน 2 คน ทำให้ประหยัดเงินไปถึง 200 บาท อาจจะใช้เวลารอคิวบางแต่ก็ไม่นาน ก็รับคูปองใช้บริการกับทางร้าน