นศ.โปลิ คว้าสุดยอดนวัตกรรมอาชีวะศึกษา 68 ผลงาน แป้มพิมพ์ช่วยผู้ป่วยติดเตียง

นศ.โปลิ คว้าสุดยอดนวัตกรรมอาชีวะศึกษา 68 ผลงาน แป้มพิมพ์ช่วยผู้ป่วยติดเตียง พร้อมผลงานลิปสติก เปลี่ยนสีจากริมฝีปากของผู้ใช้ ผลิตจากดอกกุหลาบ ผ้ารองกันเปื้อน เส้นใยกล้วยผสมใยข่า สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ยังจัดธุรกิจจำลองให้นศ. ได้ประกอบธุรกิจจริง ต่อยอดต่อการเป็นนักธุรกิจในอนาคด
ที่ วิทยาลัยโปลิทคนิคลานนา เชียงใหม่ ตำบลป่าตัน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นำสุดยอดนวัตกรรม ที่คว้าแชมป์ จากการจัดงาน“สุดยอดนวัตกรรมอาชีวศึกษา OVEC Innovation Award 2025” เมื่อวันที่ 21-23 มกราคม 2568 ณ โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช จังหวัดนครราชศรีมา จากผลงานจุดเริ่มต้นของการสร้างนวัตกรรม ที่มีชื่อว่า แป้นพิมพ์สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการสื่อสารเป็นผลงานสิ่งประดิษฐ์ ประเภทที่ 5 สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (HEALTH CARE) ซึ่งเป็นผลงานจากสาชาวิชาอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรม

โดยมีอาจารย์ภาณุมาส มาลา หัวหน้าสาชาอิเล็กทรอนิกส์พร้อมด้วยอาจารย์ณัฐพล อุ่นภัค และนักศึกษาผู้พัฒนาผลงาน ได้แก่ นายอดิศร นาอิง (EL.5101) และนายรชฎ ธนาสุวรรณดิถี (EL.5101) เป็นตัวแทนแสดงผลงานโดยการเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษาไพทอนซึ่งเป็นพื้นฐาน ทางด้านวิชาชีพ ที่มีการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ และนำไปสู่การพัฒนาจนไปถึงการแข่งขันในเวที ต่าง ๆ ได้แก่ร่วมการแข่งขันระดับจังหวัดที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ได้รับรางวัลเหรียญทอง อันดับที่ 1 เป็ระดับภาค ได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับภาคที่วิทยาลัยอาชีวอุตรดิตถ์ ได้รับรางวัลเหรียญทอง อันดับที่ 2 และได้รับรางวัลHonor Awards เป็นตัวแทน ระดับไประดับชาติ ( คัดเลือกไป 4 ทีม) และการเข้าร่วมการแข่งขันระดับชาติ ที่งานประกวดสุดยอดนวัตกรรม OVEC Innovation Award 2025 ณ โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2568 ได้รับรางวัลชนะเลิศ SPECIAL PRIZE และเงินรางวัล 100,000 บาท


ยังนำผลงานเด่นอีก 2 ผลงานของนักศึกษาจากการคิดค้นผลิตภัณฑ์ลลิปกลอส หอมกลิ่นดอกกุหลาบ จุฬาลงกรณ์ ชื่อว่า MONTRA KISS OF MEMORY ROSE LIP GLOSS ปรับเปลี่ยนตามสีตามอุณหภมิของริมฝีปากของแต่ละคน ทนนานได้ถึง 8 ชั่วโมง ยังสามรถใช้ได้กับใบหน้า ทำให้มีควมชุ่มชื้นต่อริมฝีปากได้ยาวนาน ฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้ง ลอกการเป็นขุย กลับมาเนียนนุ่ม และการคิดค้นผ้ารองกันเปื้อน จากเส้นใยกล้วยและเส้นใยข่า นวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ความโดนเด่นของผ้ากันเปื้นนี้ ป้องกันแบคทีเรียและสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ระบายความอับชื้อนได้ดี แห้งไว้ทำความสะอาดง่าย แและลดสาเหตุการเกิดแผลกดทับหรือการอักเสบของผิวหนังเนื่อจากวัสดุทำจากใยธรรมชาติซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีหลายขนาดให้เลือก เหมาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ คุณแม่หลังคลอด ผู้หญิงที่มีประจำเดือน และเด็ก ขณะเดียวกันทางวิทยาลัย ได้เปิดโอกาศให้นักศึกษา ทำธุรกิจจำลองตามคิดของตนเริ่ม เปิดธุรกิจจริงภายในวิทยาลัย ซึ่งได้เรียน ของจริงนอกจากเรียนแต่ในตำรา สร้างประสบต่อยอดสู่นักธุรกิจ SME ในอนาคด


นอกจากนั้น วิทยาลัยยังเข้าร่วมโครงการ Thailand New Gen Inventors Award 2025 (I – 1iew Ge 2025) จัดขึ้นโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนันสนุนละนวัตกรรมของประเทศไทย เปิดโอกาสให้นักศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา ได้แสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์และศักยภาพในการประดิษฐ์คิดค้น ผ่านการส่งผลงานเข้าประกวดในหลากหลายสาขา เช่น การเกษตร อาหาร สุขภาพ และอื่นๆยาลัยฯ มีผลงานผ่านการคัดเลือก ให้เข้าร่วมประกวดระดับชาติ จำนวน 4 ผลงาน1. ลิปสติกยาดอกขาวลดบุหรี่ (สาขาวิชาบริหารธุรกิจ) 2. ผ้ารองกันเปื้อนจากเส้นใยกล้วยผสมเส้นใยข่า (สาขาวิชาบริหารธุรกิจ) เส้นเล็กจากผักไชยา (สาขาขางานการท่องเที่ยวและการโรงแรม และ 4. ผลิตภัณฑ์สเปย์ออร์แกนิคยับยั้งเชื้อราในตู้เย็น (สาขางานการท่องเที่ยวและการโรงแรม)

ตม.เชียงใหม่ ลุยตรวจสถานประกอบการ รวบ 3 ต่างด้าว เมียนมาและจีนลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.ฯ รรท.ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างฯ กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน
ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวนปราบปราม บูรณาการร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 2 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” และสัญชาติจีน จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2561 (ฉบับที่ 2) มาตรา 8โดยผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า ตนได้มาทำงานที่ร้านแห่งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.68 โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท โดยไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องหาชาวจีนนั้น ให้การว่าตนได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แต่ได้มาลักลอบทำงานอยู่ที่ร้านแห่งนี้ ได้รับค่าจ้างวันละ 500 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755
 

ตม.เชียงใหม่ จับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 13 ราย ก่อนหลบหนีขึ้นรถไฟไปกรุงเทพ

พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างฯ กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชนต               ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่นเมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ ได้จับกุมคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา 13 ราย ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่บริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง มารอขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ชั้นใน จึงได้วางกำลังสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบ และสามารถจับกุมคนต่างด้าวทั้ง 13 ราย ได้ขณะกำลังจะขึ้นรถไฟ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ตนได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ มาจากทางประเทศเมียนมา และจะเดินทางไปหางานทำที่กรุงเทพฯ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

OVERSTAY เกือบ 5 ปี ตม.เชียงใหม่ ตามจับหนุ่มเมียนมา 

พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 สั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 14 ม.ค.68 ชุดสืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 1 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (1,749 วัน)” จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและรอดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป

 

โดยคนต่างด้าวรายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยใช้วีซ่าเป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งเมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว ไม่ได้ทำงานต่อกับนายจ้างคนเดิม และไม่ได้มาดำเนินการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนด พยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

ตม.เชียงใหม่ บุกรวบต่างด้าวชาวเมียนมา 2 ราย ลักลอบทำงานเป็นช่างตัดผม

พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างฯ กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน

 

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ      ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอที่ 10 ม.ค.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวนปราบปราม บูรณาการร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ทั้งหมดจำนวน 2 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” และข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2561 (ฉบับที่ 2) มาตรา 8 โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้มาทำงานที่ร้านเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 10 เดือน   โดยได้ทำงานเป็นช่างตัดผม ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำฯ เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จึงจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวส่ง พงส.สภ.ดอยสะเก็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทาง ตม.จว.เชียงใหม่

ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 175

 

นศ.โปลิ open house ต้อนรับวันเด็กครั้งแรก นำความรู้จากสาขามาประยุกต์กิจกรรมวันเด็กอย่างสนุกสนาน

เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ วันที่ 11 มกราคม 2568 บรรยากาศกิจกรรมในพื้นที่จัหวัดเชียงใหม่ ไม่ว่าจะบนดอยหรือพื้นราบ หลายหน่วยงาน องค์กร ห้างร้าน สถานศึกษา ค่ายทหาร จัดกิจกรรมสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆ ร่วมกิจกรรม รับของแจก ของรางวัล อิ่มท้อง จุดที่จัดกิจกรรม จะหนาแน่โดยเฉพาะตามค่ายทหารที่นำอาวุธยุทโธปกรณ์ มาดจัดแสดง โดยเฉพาะ กองบิน 41 เครื่องบินที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

อีกหนึ่งพื้นที่ จัดกิจกรรมครั้งแรก ของการ open house ถนนสุขเกษม ตำบล ป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มตั้งแต่ 08.00 – 14.00 น. คึกคักแต่เช้า น้องๆ นักศึกษา ทุกสาขาวิชา ได้จัดบูธจัดกิจกรรม นำขนม ของเล่น นำมาแจกด้วยกิจกรรมต่างๆ เล่นเกมสร้างความสนุกสนาน ยังมีบูธสถานประกอบการอาชีพต่างๆ เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรม ซึ่งน้องๆ ได้นำความรู้จากสาขาวิชา มาจัดกิจกรรม สร้างความสนุกสนาน ให้กับน้องๆ ผู้ปกครอง ที่เดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรม หลายคนต่างก็แต่งกายย้อนยุคในช่วงเป็นนักเรียน เข้ามาร่วมกิจกรรม ทั้งการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ,การประกวดร้องเพลงไทยสากล ,การแบ่งขันวงดนตรีสากล ,การแบ่งขันฟุตบอล 5 คน ,การแบ่งขันเต้นประกอบเพลงการออกบูธกิจกรรมของสาขา 8 สาขา ,นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ ,การจัดหางานกรมเเรงงาน , กิจกรรมสนุกสนาน พบกับบ้านผีสิง สาวน้อบตกน้ำ เกมยิงนก เกมสมาธิ เกมบันไดง เกมโยนห่วง การถ่ายภาพย้อนยุค การประกวดคอสเพลย์และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย โดยเฉพาะมีศิลปินภาคเหนือชื่อดัง วงดนตรี วงเดอะเพอะ มาสร้างความสนุกๆ อีกด้วย อีกหนึงที่ได้รับความนิยมของผู้ชายการประกวดรถจักรยานยนต์สวยงาม

เชียงใหม่ 65 จุดPM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ขึ้นมาอันดับ 15 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก

เชียงใหม่ 65 จุดPM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ขึ้นมาอันดับ 15 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก จุดตรวจวัดในเมืองเชียงใหม่ air4thai เกินค่ามาตรฐานทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ รายงานคุณภาพาอากาศตั้งแต่เวลา 07.00 น. พบว่าจากการตรวจค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ของ air4thai และ cmuccdc.org พบว่าในเมืองเชียงใหม่ จุดตรวจวัด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินจากค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนการติดตามการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากเว็บไวด์ http://air4thai.pcd.go.th/ ช่วงเวลา 07.00 น. ของวันที่ 10 มกราคม 2568 จุดตรวจวัด 6 จุด พบว่า 4 จุดตรวจวัด เกินค่ามาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จุดแรกมากที่สุด ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 45.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อำเภอฮอด ต.หางดง อ.ฮอด วัดได้ 40.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 40.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 39.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน 2 จุดไม่เกินค่ามาตรฐาน จุดแรกสำนักงานเทศบาลตำบลเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว วัดได้ 32.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจุดโรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูล แม่แจ่ม ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม วัดได้ 26.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

ส่วนจากการตรวจสอบข้อมูล ช่วงเวลา 07.00 จากเว็บไซด์ https://www.cmuccdc.org/ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 10 มกราคม 2568 ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย จากสถานีเครื่องวัด ตรวจวัดค่าฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นรายชั่วโมงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจวัดจำนวน 77 จุด ส่วนการตรววดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะต้องไม่เกิน 37.5 พบจำนวน 65 จุดตรวจวัด ตั้งแต่ 39 – 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดเป็นสีแดง 13 จุดตรวจวัด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไม่มีเกินจาก 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 จุด โดยจุดที่1.บ้านแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว วัดได้ 114 มโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรจุดที่ 2.รพ.ไชยปราการ ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ วัดได้ 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ชุมชนวัดเกต ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จุดที่ 6 (Indoor) วัดได้ 6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศดีมาก

ช่วงเวลาเดียวกัยน 07.00 น. ข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของประเทศไทย ผ่านเว็บไซด์ iqair.com แบบเรียลไทม์ ของการจัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก US.AQI วัดได้ 147 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่อันดับที่ 15 ของโลก จะปรับเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของการตรวจวัด

ตม.เชียงใหม่ ลุยจับต่างด้าวชาวเมียนมา 5 ราย ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5 ได้สั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างฯ กวดขัน จับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด และปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน

ตม.จว.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรือความผิดตามกฎหมายอื่น

วันที่ 8 ม.ค.68 พ.ต.ต.สุธีรเทพ โพธิ์นฤมิต สว.ตม.จว.เชียงใหม่ นำทีมชุดสืบสวนปราบปราม บูรณาการร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.5 ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณ ถ.เมืองสมุทร ต.ช้างม่อย อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจสอบ สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ทั้งหมดจำนวน 5 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทำงานของนายจ้าง และลักษณะงานที่ทำภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่เข้าทำงาน” และข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2561 (ฉบับที่ 2) มาตรา 8

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้มาทำงานที่ร้านเกิดเหตุ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.67 โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินสด วันละ 350 บาท โดยไม่ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.เชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในที่สุด

ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแส หรือหากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับทางตม.จว.เชียงใหม่ได้โดยตรง ผ่านทาง website ของ ตม.จว.เชียงใหม่ : https://chiangmai.immigration.go.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/immchiangmai หรือสายตรงที่โทรศัพท์ 0 5320 1755

 

 

วันนี้เชียงใหม่โชคดีไม่จุดความร้อน พบช่วงเช้าPM2.5 จะเกินค่ามาตรฐาน 37.5 มคก/ลบ.ม. 55 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของแต่ละวันจะพบว่าปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จะเกินค่ามาตรฐานหลายจุด แต่หลังจากช่วงเวลา 10.00 น. สภาพอากาศยกตัว มีลมพัดลมหนาวต่อเนื่องจะค่อยๆ ลดลง หายไป ยกเว้นจุดที่มีความหนาแน่นของชุมชน และการจราจร
ติดตามข้อมูลจากการรายงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อน (Hotspot)ประจำวันที่ 8 มกราคม 2568 รอบเช้าจังหวัดเชียงใหม่ไม่พบจุดความร้อน ส่วนจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมดจำนวน 8 จุด

จากการตรวจข้อมูล ช่วงเวลา 09.00 จากเว็บไซด์ https://www.cmuccdc.org/ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 7 มกราคม 2568 ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย จากสถานีเครื่องวัด ตรวจวัดค่าฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นรายชั่วโมงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจวัดจำนวน 80 จุด ส่วนการตรววดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะต้องไม่เกิน 37.5 พบจำนวน 55 จุดตรวจวัด ตั้งแต่ 38 – 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดเป็นสีแดง 4 จุดตรวจวัด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไม่มีเกินจาก 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยจุดที่1.บ้านหัวโท ม. 6 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วัดได้ 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร


จุดที่ 2.บ้านดอยสันเกี๋ยง ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ วัดได้ 82 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดที่ 3.รร.บ้านปากเหมือง ต.ขัวมุง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ วัดได้ 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจุดที่ 4.สสอ.จอมทอง ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ชุมชนวัดเกต ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จุดที่ 6 (Indoor) วัดได้ 3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศดีมาก

ช่วงเวลาเดียวกัยน 09.00 น. ข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของประเทศไทย ผ่านเว็บไซด์ iqair.com ของการจัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก US.AQI วัดได้ 123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่อันดับที่ 26 ของโลก

เชียงใหม่PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 52 จุด สีแดงเกิน 100 มคก/ลบ.ม. 3 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงาน ข้อมูลจากการรายงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานจุดความร้อน (Hotspot)ประจำวันที่ 7 มกราคม 2568 รอบเช้าจังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนจำนวน 1 จุด พบที่อำเภออมก๋อย 1 จุด จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมดจำนวน 8 จุด

จากการตรวจข้อมูล ช่วงเวลา 09.00 จากเว็บไซด์ https://www.cmuccdc.org/ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 7 มกราคม 2568 ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย จากสถานีเครื่องวัด ตรวจวัดค่าฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นรายชั่วโมงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจวัดจำนวน 85 จุด ส่วนการตรววดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะต้องไม่เกิน 37.5 พบจำนวน 52 จุดตรวจวัด ตั้งแต่ 38 – 127 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดเป็นสีแดง 12 จุดตรวจวัด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินจาก 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวน 3 จุด โดยจุดที่1.โรงพยาบาลแม่ตื่น ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ วัดได้ 127 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรจุดที่ 2. ชุมชนสวนดอก ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจุดที่ 3.รพ.ไชยปราการ ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพมาก ส่วนพื้นที่มีคุณภาพอากาศดีที่สุด ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสีฟ้า ณ บ้านหัวโท ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว วัดได้ 1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ห่วงเวลาเดียวข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของประเทศไทย ผ่านเว็บไซด์ iqair.com ของการจัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก US.AQI วัดได้ 132 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่อันดับที่ 25 ของโลก